คนในข่าว ทนง พิทยะ คนถูกอ้างเป็น(ว่าที่)หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ

ความจริง พรรคเพื่อชาติเพิ่งถูกจุดกระแสให้เป็นข่าวบนหน้าสื่อ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทั้งถูกยกให้เป็นพรรคที่ 3 ในยุทธศาสตร์"แยกกันเดิน ร่วมกันตี"ของขั้วพรรคเพื่อไทย

นอกจากโหมโรงมีทั้งชื่อ ยงยุทธ์ ติยะไพรัช หรือ"อ้ายยุทธ์ ตู้เย็น"อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.คนปัจจุบัน ว่ามีบทบาทสำคัญในพรรคเพื่อชาติ ทั้งที่ทั้งคู่ต่างไม่มีสิทธิ์จะเข้าสู่เวทีการเมือง ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้าด้วยข้อห้ามทางกฏหมาย

ยังมีชื่อ ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีคลังสมัยรัฐบาล"พ่อใหญ่จิ๋ว" พร้อมสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงเอาไว้ จะเข้าไปนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค พ่วงเข้ามาอีกคน

ทนง พิทยะ หรือนามสกุลเดิม ลำใย เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 การศึกษา จบ ม.ปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่นที่ 18 รุ่นเดียวกับ สนธิ ลิ้มทองกุล จบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโยโกฮาม่า ด้วยทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ และปริญญาเอกสาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และเคยเป็นกรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

เข้าสู่เวทีการเมือง โดยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลัง ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ขณะนั้น มีรองนายกรัฐมนตรีคนสำคัญคนหนึ่ง คือทักษิณ ชินวัตร

และต่อมา ทนงยังได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ในรัฐบาลทักษิณ ในปี 2548 ได้ 6 เดือน ก่อนกลับไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง สลับกันกับสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งปัจจุบัน เป็นรองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลบิ๊กตู่

ว่ากันว่า ทนงถูกดึงมาเป็นรัฐมนตรีคลัง สมัยรัฐบาล"พ่อใหญ่จิ๋ว" เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 เพื่อช่วยทำภารกิจสำคัญ คือลอยตัวค่าเงินบาท ในอีก 11 วันถัดมา หลังจากรัฐบาลโดยแบงก์ชาติ ได้นำเงินทุนสำรองไปปกป้องค่าเงินบาท หรือ สวอป สู้กับพ่อมดการเงินตัวแสบ จอร์จ โซรอส ผู้โจมตีค่าเงินบาทในวิกฤตการเงินเอเชียปี 2540 จนเหลือเงินทุนสำรองใช้ได้จริง แค่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทนง ในฐานะ รมว.คลัง ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท หรือเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทจากระบบคงที่ เป็นระบบลอยตัวแบบมีการจัดการ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ที่ลุกลามไปทั่วเอเชีย ส่งผลให้ พล.อ.ชวลิต ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ประเทศไทยต้องเข้าโครงการของไอเอ็มเอฟ และนำไปสู่"กฎหมายขายชาติ"ตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน ก็มีข่าว"ลับสุดยอด"ว่า มีบุคคลที่ทราบเรื่องลอยตัวค่าเงินบาทล่วงหน้า และได้รับอานิสงส์อู่ฟู่จากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศในครั้งนั้น

ทนง เคยให้สัมภาษณ์ย้อนอดีตเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2540 ร่วมกับผู้บริหารแบงก์ชาติ 3 คน เกี่ยวกับสถานการณ์และข้อมูลวงในค่าเงินบาทของประเทศ เขาได้โยนโจทย์กลับไปที่แบงก์ชาติว่า จะใช้มาตรการใด ระหว่างลอยตัวค่าเงิน กับลอยตัวแบบมีเพดาน ครั้งละ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ให้เวลาคิด 2-3 วัน

ก่อนที่ 2 วันถัดมา ผู้บริหารคนสำคัญของแบงก์ชาติ โทรศัพท์แจ้งคำตอบ "จะเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเป็นลอยตัว" จากนั้น มีการนัดนัดหมายไปรายงาน ต่อ พล.อ.ชวลิตที่บ้านพักในวันถัดมา

และวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นวันลงนาม คำสั่งลอยตัวค่าเงินบาท

ผ่านไป 20 ปี ทนง คนที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ลอยตัวค่าเงินบาท ได้เคยเอ่ยปากขอโทษคนไทยผ่านบทสัมภาษณ์สื่อเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนว่า "ผมต้องขออภัยที่บางคนต้องเจ็บปวด แต่ผมคิดว่าเป็นความเจ็บปวด ซึ่งในที่สุดทำให้เราได้เรียนรู้ และทำให้เราประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา"

หลังพ้นจากเวทีการเมือง แทบจะไม่มีข่าวคราวเขาปรากฏบนหน้าสื่อ ก่อนจะกลับมาเป็นข่าวใหญ่ ว่าจะไปนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ทั้งที่ยังไม่มีคำพูดจากปากของเจ้าตัว