svasdssvasds

โยนกันนัว เงินบริจาคพรรคการเมือง ทำได้หรือต้องขอคสช.ไฟเขียว?

โยนกันนัว เงินบริจาคพรรคการเมือง ทำได้หรือต้องขอคสช.ไฟเขียว?

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เป็นประเด็นร้อนส่งท้ายปลายสัปดาห์ เรื่องพรรคการเมืองหาทุนสนับสนุนพรรค แต่กลับโดน กกต.สั่งห้าม และให้นำเงินบริจาคที่ได้ทั้งหมดส่งคืน

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมาชิกใหม่วันแรกของพรรคอนาคตใหม่ โดยมีผู้คนสนใจเข้าสมัครมากพอสมควร

นอกจากนี้ ยังมีการขายสินค้าเพื่อหาเงินทุนสนับสนุนเข้าพรรค อาทิ ขายเสื้อ ร่ม ถ้วยกาแฟ ซึ่งถือเป็นที่มาของเงินทุนเข้าพรรคก้อนนี้

ขณะที่ทาง กกต. อ้างเหตุผลการสั่งห้ามรับบริจาคเงินว่า ไม่ได้อยู่ใน 9 ข้อที่ คสช.มีคำสั่งคลายล็อคให้กับพรรคการเมือง ตามคำสั่งที่ 13/2561

ฉะนั้น การทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น การหาเงินทุนเจ้าพรรค จึงต้องทำเรื่องขออนุญาตไปยัง คสช.เสียก่อน เช่นเดียวกับกรณียุบพรรคการเมืองที่ไม่อยู่ใน 9 ข้อเช่นกัน

เหตุผลสำคัญที่ กกต.พยายามดึงเข้ามาเพื่ออธิบายกรณีนี้เพิ่มเติม คืออ้างถึงคำสั่งที่ 57/2557 ว่าด้วยข้อห้ามต่างๆของพรรคการเมือง ซึ่งรวมทั้งการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

ทางเดียวที่จะทำได้ คือต้องขออนุญาตไปยัง คสช.เสียก่อน

ท่ามกลางความงุนงงสงสัยจากทางฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ ที่มองว่า การระดมเงินทุนเข้าพรรคถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ เนื่องจากเวลาเหลืออยู่มีจำกัด ทันที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส. การระดมหาทุนต้องยุติทันที ขณะที่พรรคก็มีภาระค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ไม่เฉพาะช่วงเลือกตั้งอย่างเดียว อาทิ จัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิไตย หรือการจัดคาราวานรับสมาชิกใน 6 จังหวัดที่พรรคได้กำหนดไว้ให้เป็นที่ตั้งสาขาใหญ่ประจำภูมิภาค

การออกโรงชน กกต.ของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงการสำทับว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ คสช. ถือเป็นการออกหมัดตรงเข้าใส่กล่องดวงใจของ กกต.ก็ว่าได้

หลังจากช่วงที่ผ่านมา กกต.ไม่กล้าฟันธงอะไรเลย แม้แต่ในการพบปะกับตัวแทนพรรคการเมืองครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งยังคงพยายามโยนปัญหาไปที่ คสช.เช่นเดิม หากพรรคการเมืองยังค้างคาใจอะไร ให้ทำหนังสือสอบถามไปที่ คสช.

หรือแม้แต่พรรคการเมืองจะทำอะไรนอกเหนือจาก 9 ข้อตามคำสั่ง คสช. ที่ 13/2561 ก็ให้ทำเรื่องขออนุญาตไปที่ คสช.โดยตรง

รวมทั้งเรื่องเงินบริจาคของพรรคการเมืองด้วย

ร้อนถึงรัฐบาล โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯมือกฎหมายคนสำคัญ ต้องรีบออกโรงกระตุก กกต. ให้เป็นผู้พิจารณาว่าทำได้หรือไม่ ไม่ใช่ คสช. ทั้งย้ำด้วยว่า คำสั่ง คสช.ที่ออกมา ก็ไม่ได้ห้ามพรรคการเมืองเรี่ยไรหรือรับบริจาคเงินเข้าพรรค

เท่ากับข้อกล่าวอ้างของ กกต.ที่ว่า พรรคการเมืองขัดต่อคำสั่ง คสช. เรื่องรับเงินบริจาคเข้าพรรคนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง

คำสวนกลับของนายวิษณุ ด้านหนึ่ง คือสะท้อนภาพการทำงานที่มักออกไปในรูป "โยนปัญหา" แทนที่จะเป็น"แก้ปัญหา" แต่อีกด้านหนึ่ง ก็สะท้อนความไม่มั่นใจ ในบทบาทตนเองของ กกต.อย่างเด่นชัด โดยเฉพาะการทำงานในเรื่องต้องประสานกับ คสช.

กกต.ใหม่ทั้ง 5 คน ยังติดลูกเกรงใจ และอาจลุกลามขยายผลไปจนเป็นลูกเกรงขาม คสช.ได้ สะท้อนจากกรณีไม่กล้าฟันธงในเรื่องที่เป็นบทบาทและอำนาจการตัดสินใจของตนเอง

ขนาดแค่เรื่องเงินบริจาคและการหาเงินทุนสำหรับพรรคการเมือง ยังโดน"จัดเต็ม"ขนาดนี้ เรื่องใหญ่และสำคัญกว่า อย่างเรื่องหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ"ปลดล็อค"แล้ว รวมถึงการหาเสียงผ่านโลกโซเชียล-ออนไลน์ ที่รออยู่ข้างหน้า ไม่รู้จะโดนอีกเท่าไหร่

เป็นวิบากกรรม ที่ กกต.ต้องได้เผชิญหน้าแน่นอน

related