ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากอุบัติเหตุรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีนายตำรวจยศ ร.ต.อ.สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับ เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถพยาบาลของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์ – ประโคนชัย ช่วงระหว่างบ้านไทร-ไพบูลย์ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนรถพยาบาลคันดังกล่าวพลิกคว่ำตกข้างทางในสภาพพังเสียหายยับเยินเกือบทั้งคัน เป็นเหตุให้พยาบาลที่นั่งมาในรถรีเฟอร์ เสียชีวิต ส่วนสาวท้องแก่ ญาติ และคนขับรถ ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุดครอบครัวได้นำร่างของ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.เขาคอก ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านมะขามเจรอะ ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนายเจีย เชื่อมาก ผู้เป็นพ่อยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน และไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะมาจากไปรวดเร็วขนาดนี้ ขณะที่บรรยากาศภายในงานก็ได้มีญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมวิชาชีพ ทยอยเดินทางมาเคารพศพและแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความอาลัยด้วยเช่นกัน
นายเจีย เชื่อมาก อายุ 68 ปี บอกว่า น.ส.สุดารัตน์ หรือน้องดา เป็นลูกสาวคนสุดท้ายจากที่มีลูกทั้งหมด 4 คน ชาย 1 หญิง 3 คน ซึ่งลูกผู้หญิงทั้ง 3 คนปัจจุบันทำงานเป็นพยาบาล โดยน้องดา พึ่งเรียนจบวิทยาลัยพยาบาลที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2560 พึ่งเข้าทำงานที่ รพ.สต.เขาคอก ได้เพียง 1 ปี ก็ไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะมาจากไปอย่างกะทันหันแบบนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวของตนเองด้วย เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นคู่กรณีมาแสดงตัวหรือพูดคุยกับทางครอบครัวเลย
ด้าน น.ส.นฤมล โพธิ์ศาลา พี่สาวของน้องดา ซึ่งปัจจุบันเป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการที่ รพ.หนองหงส์ เล่าด้วยน้ำตาคลอว่า ค่อนข้างสนิทกับน้องสาวก็จะโทรหรือไลน์คุยกันเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อวานก่อนเกิดเหตุก็พึ่งไลน์คุยกับน้อง ก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไร กระทั่งมาทราบข่าวอีกทีตอนเกือบ 6 ทุ่ม ว่ารถรีเฟอร์ที่น้องนั่งปฏิบัติหน้าที่มาในรถด้วยประสบอุบัติเหตุ และน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในที่สุด ก็รู้ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับน้องสาว ก็อยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เกรงว่าเรื่องจะเงียบหายโดยเฉพาะคู่กรณีก็เป็นตำรวจ และอยากจะฝากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนอย่าประมาท เพราะอาจจะสร้างความสูญเสียให้กับบุคคลอื่น
ขณะที่ พ.ต.ท.สุทิน หวังกลับ รั