รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เคาะมาตรการรองรับแรงงานไทยที่ลักลอบไปทำงานกลับจากเกาหลีใต้ ตั้งศูนย์รองรับที่ด่านตรวจคนหางานสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ขณะที่ทางเกาหลี เตรียมกวดขันเอาผิดแรงงานผิดกฎหมาย 1 พ.ย. นี้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงาน ได้รับรายงานจากทูตแรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ว่าสถานการณ์แรงงานไทย หลบหนีไปทำงานอยู่มีมากถึง 120,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 50,000 คน ส่วนใหญ่มีนายหน้าชักชวนกันไป พากันไป ทำงานโรงงาน เกษตรกรรมและงานนวด กลุ่มที่ลักลอบไปนี้ แชร์กันมาก ในโซเชียลมีเดีย รู้จักกันในชื่อ "ผีน้อย" เนื่องจากมีแรงงจูงใจในเรื่องค่าตอบแทน ได้รับค่าจ้างสูง ประมาณ 55,844 บาทต่อเดือน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการประชุมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานไทยถูกหลอกลวง และลักลอบไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อรับทราบความคิดเห็น แนวทางการดำเนินการและข้อเสนอแนะ เพื่อบูรณาการ และสร้างความร่วมมือเตรียมพร้อมเรื่องการรองรับคนไทยที่จะเดินทางกลับจากสาธารณรัฐเกาหลี และเตรียมการขยายตลาดแรงงาน 3 ประเด็น
1) มาตรการรองรับแรงงานที่สมัครใจกลับประเทศ การให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2) การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งแรงงานไทยเข้าไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
3) การสร้างความร่วมมือป้องกัน และแก้ไขปัญหาการลักลอบไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี
1. การรับแรงงานไทย ตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลแรงงานในสาธารณรัฐเกาหลีพร้อมประชาสัมพันธ์ให้แรงงานไทยในสาธารณรัฐเกาหลีเข้าร่วมโครงการ
- ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากสาธารณรัฐเกาหลี ณ ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ และด่านตรวจคนหางานดอนเมืองให้ความช่วยเหลือ
-ตั้งศูนย์จัดหางานเพื่อเตรียมตำแหน่งงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
-จัดฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านภาษาเกาหลีให้แก่แรงงานไทยที่เดินทางกลับมาไทย
จำนวน 62,174 อัตรา มี 10 อันดับงาน ได้แก่ 1.งานธุรการ งานอื่นๆ
2. บัญชี
3.การขาย
4.จัดซื้อ
5.บุคคล/ฝึกอบรม ท่องเที่ยว
6.คอมพิวเตอร์/ไอ ที
แถบเอเชีย 30,000 อัตรา
-ไต้หวัน 15,000 อัตรา
-สาธารณรัฐเกาหลี 6,000 อัตรา
-ญี่ปุ่น 5,000 อัตรา
-ประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง/มาเก๊า 4,000 อัตรา
แถบตะวันออกกลาง 5,500 อัตรา ได้แก่
-อิสราเอล 5,000 อัตรา
-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
-คูเวต 500 อัตรา
แถบยุโรป 7,000 อัตรา ได้แก่
-สวีเดน 3,000 อัตรา
-ฟินแลนด์ 2,000 อัตรา
-ประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ โปรตุเกส รัสเซีย 2,000 อัตรา
นอกจากนั้นยังมีแถบอื่นๆ เช่น แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลียและโอเชียเนีย เป็นต้น อีก 2,500 อัตรา ได้แก่ แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ 2,500 อัตรา
2.ขอเพิ่ม 5 ประสิทธิภาพ การจัดส่งแรงงานไทยเข้าไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
-ขอเพิ่มโควตาในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีภายใต้โครงการ EPS จากเดิม 5,000 อัตรา เพิ่มเป็น 15,000 อัตรา
-ขอขยายอายุของแรงงานไทยจากเดิมไม่เกิน 39 ปี เป็นไม่เกิน 45 ปี
-ขอให้ทางการสาธารณรัฐเกาหลีเพิ่มสัดส่วนการคัดเลือกแรงงานหญิงไทยเข้าไปทำงานมากขึ้น
- ขอขยายระยะเวลาการทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ที่เดิม 9 ปี 8 เดือน เป็น 14 ปี (ทำงานได้ครั้งละ 4 ปี 8 เดือน สามารถเดินทางไป-กลับ ได้ 3 รอบ)
-ขอลดขั้นตอนระยะเวลาการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (CID)
3. การป้องกันการลักลอบไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี โดยจัดตั้งทีมเฝ้าระวังและตอบโต้ เฟสบุ๊ค/ไลน์/เว็บไซต์ และใช้สายตรวจออนไลน์คอยตรวจสอบผู้ที่มีพฤติกรรมหลอกลวง หรือลักลอบส่งคนหางานไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี และจัดตั้งชุดเฝ้าระวังที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะเป็นประเทศที่มีแรงงานไทยทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับค่าจ้างสูงประมาณ 55,844 บาทต่อเดือน และนายจ้างเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงานไทย เนื่องจากมีฝีมือและมีวินัย