นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทย เหตุต้องการเปิป “เนื้อจระเข้”

วันที่ 16 ก.ค. 60 -- นอกจากการแสดงจระเข้ของฟาร์มจระเข้หลายแห่งในไทยจะได้รับความนิยม จนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาชมจำนวนมาก และเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยแล้ว อีกหนึ่งความนิยมที่กำลังเกิดขึ้น คือ ความนิยมบริโภค “เนื้อจระเข้” ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากอยากลิ้มลอง จนตั้งโปรแกรมเดินทางมาไทยเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่เนื้อจระเข้กลับไม่เพียงพอต่อความต้องการ

การแสดงจระเข้โดยชายสวมชุดสีแดง ที่เปิดให้ชมตามฟาร์มจระเข้ ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว

นอกจาก “จระเข้” จะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว เกล็ดที่ปกคลุมผิวหนังของมันยังมีมูลค่า ถูกนำมาผลิตเป็นเครื่องหนังสุดหรู อาทิ กระเป๋าหนังจระเข้ ที่เป็นที่นิยมของบรรดาสาว ๆ ขณะที่ หนุ่ม ๆ นิยมใส่เข็มขัดหรือรองเท้าที่ผลิตมาจากหนังจระเข้เช่นกัน

แต่ความนิยมที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ คือ ชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติติดใจรสชาติของ “เนื้อจระเข้” ที่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยโปรตีน, วิตามิน, ธาตุเหล็ก และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

นักวิทยาศาสตร์ไทย ระบุว่า เลือดของจระเข้มีส่วนช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนสะดวก และคนสมัยโบราณยังเชื่อด้วยว่า เนื้อจระเข้ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง นักวิทยาศาสตร์จึงนำเนื้อจระเข้ไปผลิตเป็นอาหารเสริม หนึ่งในนั้น คือ หจก.วานิไทย ที่สร้างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากจระเข้รายแรกของไทยและของโลก

น.ส.วิสาชิณี รุ่งทวีชัย กรรมการผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด วานิไทย กล่าวว่า ความนิยมบริโภคเนื้อจระเข้เป็นข่าวดีสำหรับฟาร์มจระเข้หลาย ๆ แห่งของไทย เพราะนักท่องเที่ยวชื่นชอบและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ด้าน นักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า เป็นอะไรที่แปลกใหม่และอยากลิ้มลองเนื้อจระเข้สักครั้ง

แม้รสชาติเนื้อจระเข้จะถูกปากชาวจีนหลาย ๆ คน แต่ชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงรับไม่ได้ เพราะเนื้อสัตว์ที่ชาวจีนนิยมบริโภค คือ ไก่, ปลา และเป็ด ฉะนั้นการลองชิมเนื้อจระเข้ ก็เพื่อให้หายสงสัยว่า มันมีรสชาติเป็นอย่างไร?

ตัวเลขจากกรมประมง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจระเข้กว่า 1.2 ล้านตัว อาศัยอยู่ในฟาร์มจระเข้กว่า 1,000 ฟาร์มทั่วประเทศ โดยจระเข้บางส่วนอยู่ในโรงฆ่าสัตว์และโรงฟอกหนัง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการผลิตเครื่องหนัง

นายวิเชียร เรืองเนตร เจ้าของฟาร์มจระเข้ศรีอยุธยา ระบุว่า จระเข้สร้างรายได้มหาศาล เพราะต้นทุนที่ใช้ในการเลี้ยงดูจระเข้นั้น สัดส่วนไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับกำไรที่ได้รับ แม้จะต้องเลี้ยงดูจระเข้มากกว่า 3 ปี กว่าจะสร้างเม็ดเงินก็ตาม อีกทั้งทุกส่วนของจระเข้สามารถนำไปจำหน่ายได้ ยกเว้น ส่วนหัว 

ฟาร์มจระเข้ศรีอยุธยา ตั้งอยู่ใน ต.หนองขนาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในไทย และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมานานกว่า 35 ปีแล้ว 

ฟาร์มแห่งนี้ จำหน่ายเนื้อจระเข้ในราคา 300 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ขณะที่เลือดของจระเข้ที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นยาและอาหารเสริม ถูกจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 500 บาท ไปจนถึง 40,000 บาท/กิโลกรัม

ทั้งนี้ บริษัทที่จดทะเบียนภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ในประเภทสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ จะได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกเนื้อจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยได้

นายวิเชียร กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณเนื้อจระเข้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค สาเหตุมาจากการฆ่าจระเข้เพื่อเอาหนังมีจำนวนลดลง เพราะราคาหนังลดลงกว่า 60% ทำให้มีปริมาณเนื้อจระเข้ลดลงตามไปด้วย