แอปพลิเคชั่น ‘Tinder’ มีกลไกอย่างไร ที่ทำให้คู่รักมาแมทช์กัน

ก่อนหน้านี้แอปพลิเคชั่น ‘Tinder’ จะใช้ระบบการให้คะแนน Elo 
ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ใช้ในการคำนวณระดับทักษะของผู้เล่นหมากรุก 

เช่นคุณไต่อันดับตามจำนวนคนที่เลื่อนไปทางขวา ("ถูกใจ") คุณได้ แต่นั่นเป็นการถ่วงน้ำหนัก ว่าใครเป็นคนกวาดนิ้ว ยิ่งบุคคลนั้นปัดนิ้วได้ถูกต้องมากเท่าไร เขาก็จะยิ่งปัดไปทางขวาเพื่อ คะแนน ของคุณมากขึ้นเท่านั้น 

จากนั้นจะมีการจัดเรียงระดับคะแนน ที่เรียกกันว่า “ความปรารถนา” ที่ใกล้เคียงกันมาเจอกันบ่อยขึ้น หรือพูดง่ายๆว่าใครที่ปัดขวา (Swipe Right) มาก ก็จะเจอคนที่ปัดขวามากเช่นกัน

แต่ในปี 2019 ทางบริษัทได้ออกมาประกาศชัดเจนว่า  Tinder มีผู้ใช้เพียงพอและมีประวัติผู้ใช้มากพอที่จะคาดเดาได้ว่าใครต้องการใคร โดยอิงจากวิธีที่ผู้ใช้เลือกโปรไฟล์เดียวกันหลายๆ โปรไฟล์เท่านั้น ผู้ใช้ที่คล้ายกับพวกเขา และวิธีที่พฤติกรรมของผู้ใช้คนหนึ่งสามารถทำนายพฤติกรรมของผู้อื่นได้ โดยไม่ต้องจัดอันดับผู้คนในลักษณะที่แข่งขันแบบเดิมๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• Tinder เปิดพฤติกรรมปัดขวาของ Gen Z ชาวไทยปี 2021
• 7 แอปหาคู่ 2022 โหลดติดเครื่องเพื่อคลายความโสด ก่อนวันวาเลนไทน์
• Stir แอปหาคู่ใหม่สำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว

แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ว่ากระบวนการนี้ยังคงขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอกหรือหน้าตาและรูปร่างนั่นเอง 
แม้แอปจะได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้คนสามารถใส่รูปภาพเพิ่มเติมในโปรไฟล์ของพวกเขา และทำให้รูปภาพแสดงในอินเทอร์เฟซที่ใหญ่ขึ้น 

และผู้คนก็มักไม่เพิ่มข้อมูลส่วนตัว ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางคนไม่เขียนอะไรอธิบายตัวตนของตัวเองเลย บางคนใช้ประโยชน์จากการผูก Spotify และ Instagram ที่ทำให้พวกเขาเพิ่มบริบทเพิ่มเติมโดยไม่ต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง
 

แอปพลิเคชั่น Tinder มีหลากหลายปัจจัยในการเลือกหาผู้คนมาให้คุณปัด (Swipe) เช่น เพศ อายุ สถานที่ แต่สุดท้ายแล้ว สรุปได้ว่ามันอยู่ที่โปรไฟล์ของคุณ ภาพต่างๆที่จะเชิญชวนให้คนเข้ามาพูดคุยสนทนาด้วยนั่นเอง 

ทริกง่ายๆที่ทำให้คุณถูกแมทช์ ‘Tinder’ ง่ายขึ้นและบ่อยขึ้น

ใช้แอพอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อวัน 
เปิดใช้ Tinder ในสถานที่ยอดฮิต
พยายามปรับปรุงโปรไฟล์ เช่น เปลี่ยนรูป
อย่าปัดขวาบ่อยเกินไป เลือกปัดคนที่คุณชอบที่สุด
เมื่อคุณแมทช์กับใครสักคน ให้ส่งข้อความภายใน 24 ชม.

แอปพลิเคชั่นหาคู่ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องธรรมชาติในการพบปะพูดคุยเหมือนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มหนึ่ง และไม่ใช่ในแง่เรื่องเพศอีกต่อไป มีตัวอย่างมากมายที่คู่รักหลายคู่ตกลงแต่งงานกันจนมีครอบครัว โดยพบเจอและพูดคุยกันจากแอปพลิเคชั่นประเภทนี้ ซึ่งทำให้เราเห็นว่าโลกดิจิทัลอีกมุมหนึ่งก็ได้ทำให้ชีวิตคนเราง่ายขึ้นในการเข้าถึงกันและกัน