UNICEF เผย โลกร้อนทำให้เด็กกว่า 43 ล้านคนอพยพหนีในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

อนาคตเด็กดูเหมือนจะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเด็กจากประเทศยากจน ผลการวิจัยใหม่จากองค์กร Unicef กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children’s Fund) เผยว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา มีเด็กอพยพอย่างน้อย 43 ล้านคน ซึ่งสาเหตุการอพยพเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เท่ากับว่าทุก ๆ วัน มีเด็กราว ๆ 20,000 คนถูกบังคับให้ต้องทิ้งบ้านและไม่ได้เรียนในโรงเรียน

Children Displaced in a Changing Climate เป็นการวิเคราะห์จากทั่วโลกเกี่ยวกับเด็กที่ต้องลี้ภัยสภาพอากาศออกจากถิ่นฐานบ้านเกิด ผลการสำรวจในช่วงที่ผ่านมาระบุอย่างชัดเจนว่า ภัยสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม พายุ ความแห้งแล้ง และไฟป่า ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเด็ก

• เด็กที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ฟิลิปปินส์ และอินเดียมีเด็กต้องพลัดถิ่นถึง 22.3 ล้านคน จากการเผชิญหน้ากับสภาพอากาศรุนแรง เช่น ฝนมรสุมและพายุไซโคลน
• ส่วนเด็กในทวีปแอฟริกา ก็ต้องอพยพหนีหลังเผชิญหน้ากับอากาศแปรปรวน ความขัดแย้ง การปกครองที่ย่ำแย่ และการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
• เด็กบนเกาะโดมินิกา ในทะเลแคริบเบียนประมาณ 76% ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น หลังถิ่นที่อยู่ได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนระดับ 4 ในปี 2018 ถึง 90% พายุส่งผลให้เด็ก ๆ บนเกาะต้องไปเร่ร่อนในคิวบา วานูอาตู เซนต์มาร์ติน และหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียน

• เด็กในโซมาเลียและซูดานใต้ มีเด็กพลัดถิ่นอันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลกระทบให้เด็ด 12 % ไร้บ้าน
• ในเดือนสิงหาคม 2022 น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถาน ทำให้เด็ก 3.6 ล้านคนต้องพลัดถิ่น ทนทุกข์กับความไม่สะดวกในการเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด มีบ้านในนอนอบอุ่น และสุขอนามัยที่เหมาะสม
• ภัยแล้งในโซมาเลีย เอธิโอเปีย และอัฟกานิสถาน ทำเด็กพลัดถิ่นมากถึง 1.3 ล้านคน เพราะอาหารไม่เพียงพอ ไม่มีน้ำดื่ม ปศุสัตว์ตายเรียบ ทำให้เด็ก ๆ ต้องย้ายไปหาแหล่งใหม่ที่พออยู่ได้
• แม้กระทั่งเด็กในสหรัฐอเมริกาก็ถือว่ามีการพลัดถิ่น โดยรายงานเผยว่า เด็กอเมริกาคิดเป็น 3 ส่วน 4 ประมาณ 610,000 -810,000 คนต้องย้ายบ้านหนีเพราะไฟป่าทำลายบ้านของพวกเขาไปมากกว่า 3,000 หลังคาเรือน และมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในแคนาดา อิสราเอล ตุรกี และออสเตรเลีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ผลพวงโลกร้อนขึ้น อิตาลีหันมาปลูกมะม่วง กล้วย อะโวคาโด แทนพืชเมืองหนาว

• อย่ามัวแต่ฟอกเขียว! UNDP เตือน เลิกอุดหนุนราคาพลังงานฟอสซิล

นอกจากนี้รายงานยังเผยอีกว่า ในปี 2021 สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนว่า โลกจะต้องไม่มีการขยายฐานการผลิตน้ำมัน ก๊าซและถ่านหินอีกต่อไป หากอยากให้เรารอดพ้นจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และที่ผ่านมาโลกล้มเหลวในการให้ความสนใจต่อคำเตือนต่าง ๆ ที่นักวิจัยแสดงออกมา

ภัยสภาพอากาศล้วนตามมาด้วยผลกระทบหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนอาหาร เพราะพืชผลไม่สามารถปลูกได้ตามฤดูกาลหรือไม่ก็ถูกภัยสภาพอากาศโจมตีจนพืชผลเสียหาย ตามมาด้วยการขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัย ยิงยาวถึงปัญหาด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจของเด็ก รวมถึงโอกาสในการใช้ชีวิตตามช่วยวัย และบ้านที่พักพิง

อย่างไรก็ตาม ในอีก 30 ปีข้างหน้าอาจมีเด็กเกือบ 96 ล้านคนต้องพลัดถิ่นอีก จากภัยพิบัติด้านสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว และทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะของสังคมที่ไม่มีกำลังมากพอในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก

ที่มาข้อมูล

The Guardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ธารน้ำแข็งสวิสละลายไปแล้ว 10% ภายใน 2 ปี ผลพวงจากภาวะโลกร้อน

• ยุโรปร้อนทุบสถิติสี่เดือนติด ปี 66 ขึ้นแท่นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

• โลมาแอมะซอนตายนับร้อย ผลพวงภัยแล้งเอลนีโญ ทำทะเลสาบร้อน 39 องศาฯ