svasdssvasds

อุณหภูมิน้ำทะเลทั่วโลกร้อนขึ้น จนทำลายสถิติรายวันต่อเนื่องครบ 365 วันแล้ว

อุณหภูมิน้ำทะเลทั่วโลกร้อนขึ้น จนทำลายสถิติรายวันต่อเนื่องครบ 365 วันแล้ว

เปิดเตา เผาโลก! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ขณะนี้อุณหภูมิมหาสมุทรทั่วโลกร้อนทำลายสถิติรายวัน ที่ร้อนติดต่อกันเป็นเวลา 365 วัน หรือครบ 1 ปีเต็มแล้ว และจะร้อนขึ้นไปอีก

SHORT CUT

  • รายงายจาก NOAA เผยว่า อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลทั่วโลกร้อนขึ้น ทำลายสถิติรายวันติดต่อกันจนครบ 365 วันแล้ว
  • โดยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 67 อุณหภูมิเฉลี่ยน้ำทะเลอยู่ที่ 21.2 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล
  • ผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นขึ้น
  • ต่อจากนี้จับตาดูปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ของโลกครั้งที่ 4

เปิดเตา เผาโลก! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ขณะนี้อุณหภูมิมหาสมุทรทั่วโลกร้อนทำลายสถิติรายวัน ที่ร้อนติดต่อกันเป็นเวลา 365 วัน หรือครบ 1 ปีเต็มแล้ว และจะร้อนขึ้นไปอีก

เราทราบกันดีว่าอุณหภูมิน้ำทะเลทั่วโลกกำลังร้อนขึ้น จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แต่รายงานล่าสุดจากหน่วยงานด้านมหาสมุทรของสหรัฐฯเผยให้เห็นว่า อุณหภูมิน้ำทะเลทั่วโลกร้อนขึ้น จนทำลายสถิติรายวันติดต่อกันจนครบ 365 วันแล้ว

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลโลกร้อนทำลายสถิติติดต่อกันเป็นเวลา 365 วันหรือครบหนึ่งปีแล้ว

Cr.REUTERS

โดยข้อมูลจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือโนอาของสหรัฐฯ และระบบวิเคราะห์สภาพอากาศของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเมน พบว่า นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมปีที่แล้ว อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลทั่วโลก ร้อนจนทำลายสถิติรายวันของปีก่อนหน้า ติดต่อกันจนครบ 365 วัน

และเมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 21.2 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลใหม่ด้วย

รายงานระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวเกิดจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่มีมนุษย์เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นขึ้น

ด้านริชาร์ด สปินแรด ผู้บริหารของโนอาเปิดเผยสัปดาห์นี้ว่า ความร้อนดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล โดยก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โนอาก็เพิ่งเตือนว่า โลกของเรากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ของโลกครั้งที่สี่

ปะการังเริ่มผอกขาวที่ออสเตรเลีย เดือนมีนาคม 2024 Cr.REUTERS

หน่วยงานเฝ้าระวังแนวปะการังของสหรัฐฯพบว่า มีการเตือนภัยปัญหาปะการังฟอกขาวในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออก และในทะเลแคริบเบียน ซึ่งประสบกับปัญหาอากาศร้อนรุนแรง ทำให้นักวิทยาลัยเริ่มเป็นกังวลมากขึ้นว่า ในฤดูเฮอริเคนของมหาสมุทรแอตแลนติกที่กำลังจะมาถึง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายรุนแรงมากกว่าเดิม

ตามปกติแล้ว ฤดูเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายนและสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี แต่เนื่องจากรูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หลายพื้นที่ของมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลางเริ่มอุ่นมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงเดือนมีนาคม

ปะการังฟอกขาวที่ great barrier reef Cr.Reuters ริชาร์ดเปิดเผยด้วยว่า ถ้าหากดูจากถสิติ เราจะเห็นว่า พายุไซโคลนกกำลังก่อตัวขึ้นเร็วกว่าวันที่ 1 มิถุนายน และเราอาจจะได้เห็นฤดูเฮอริเคนขยายออกไปเกินสิ้นเดือนพฤศจิกายน เพราะในตอนนี้ ฤดูเฮอริเคนยาวนานขึ้น

ทั้งนี้ มหาสมุทรทั่วโลกดูดซับความร้อนและพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ถึงราว 90 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งความร้อนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านั้นเป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหารการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ  โดยแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในชั้นบรรยากาศตอนเหนือคือมหาสมุทรแอตแลนติกนั่นเอง ซึ่งการไหลเวียนของน้ำช่วยควบคุมอุณหภูมิบนแผ่นดิน ดังนั้นบรรดานักวิทยาศาสตร์จึงกังวลหากน้ำทะเลร้อนขึ้นนั่นเอง

ที่มาข้อมูล

Financial Times

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related