svasdssvasds

"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ" นวัตกรรมอาหารสู้ภาวะโลกเดือด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ" นวัตกรรมอาหารสู้ภาวะโลกเดือด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ภาวะโลกเดือด กำลังส่งผลกระทบผลผลิตทางการเกษตรลดลงหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือกาแฟ ซึ่งอาจทำให้ราคาเมล็ดกาแฟพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์จากความขาดแคลน แต่เทคโนโลยีซูเปอร์ฟู้ด อาจเข้ามาบรรเทาปัญหานี้ได้

SHORT CUT

  • Atomo เปิดตัวกาแฟไร้เมล็ดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเอสเพรสโซบดที่ทำจากพืชต่างๆผสมกว่า 10 ชนิด
  • ความต้องการกาแฟที่เพิ่มขึ้นกระทบสิ่งแวดล้อม จนถูกเรียกว่าเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่อันดับ 2 รองจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • วิกฤตสภาพภูมิอากาศและภัยแล้งทำให้พื้นที่ปลูกกาแฟลดลง ส่งผลให้ราคากาแฟมีแนวโน้มสูงขึ้น บางบริษัทจึงมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า

ภาวะโลกเดือด กำลังส่งผลกระทบผลผลิตทางการเกษตรลดลงหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือกาแฟ ซึ่งอาจทำให้ราคาเมล็ดกาแฟพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์จากความขาดแคลน แต่เทคโนโลยีซูเปอร์ฟู้ด อาจเข้ามาบรรเทาปัญหานี้ได้

กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก และมีการบริโภคมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ  ในแต่ละวันมีผู้คนทั่วโลกดื่มกาแฟถึง 2,000 ล้านแก้ว ขณะที่สมาคมกาแฟแห่งชาติสหรัฐรายงานในปี 2020 คนอเมริกันโดยเฉลี่ย "ดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวัน" อย่างไรก็ตาม ความต้องการเมล็ดกาแฟที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ กำลังส่งผลกระทบและทำสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น และค่าจ้างที่ต่ำสำหรับเกษตรกรที่ดูแลพืชผล

จนนักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า "กาแฟเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่อันดับ 2 รองจากเชื้อเพลิงฟอสซิล"

นอกจากนี้ วิกฤตสภาพภูมิอากาศยังทำให้พื้นที่ที่เคยเหมาะสำหรับปลูกกาแฟลดลง และปรากฏการณ์เอลนีโญก็ทำให้เกิดภัยแล้งในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้ราคากาแฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้ บางบริษัทจึงเริ่มมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

\"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ\" นวัตกรรมอาหารสู้ภาวะโลกเดือด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ คืออะไร?

Atomo บริษัทสตาร์ทอัพจากสหรัฐฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กาแฟที่ไม่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟจริงๆ หรือ "กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ"  โดยใช้ชื่อว่า "Coachella Latte Blend" ซึ่งเป็นเอสเพรสโซบด ที่ทำจากส่วนผสมต่างๆ เเมล็ดอินทผาลัม, เมล็ดรามอน, มะนาว, โปรตีนถั่ว, ลูกซัด, ฝรั่ง, ข้าวฟ่าง, คาเฟอีน (จากชาเขียว), ฟรุกโตส, เมล็ดทานตะวัน และเบกกิ้งโซดา 

โดยบริษัทอ้างว่ากาแฟนี้มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกับกาแฟทั่วไป แต่ต่างจากเนื้อปลอมตรงที่ไม่ได้ต้องการมาแทนที่กาแฟ แต่อยากจะอยู่ร่วมกับกาแฟแทน นอกจากนี้ กระบวนการผลิตยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยลง 83% และใช้พื้นที่เพาะปลูกน้อยลง 70% 

\"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ\" นวัตกรรมอาหารสู้ภาวะโลกเดือด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ" Atomo มีจำหน่ายทั้งแบบปกติและแบบไม่มีคาเฟอีน ในราคาปอนด์ละ 15.99 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคากาแฟทั่วไปที่ร้านกาแฟในอเมริกาจำหน่ายอยู่ที่ 10-14 ดอลลาร์ต่อปอนด์ 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามดูว่ากาแฟไร้เมล็ดนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนเนื้อจากพืชหรือไม่ เพราะราคาที่สูงและยังไม่มีการตลาดที่ชัดเจน อาจทำให้เป็นได้แค่เทรนด์เฉพาะกลุ่ม ที่คนส่วนน้อยยอมรับ แต่ยังไม่น่าจะแทนที่กาแฟปกติได้ ดังนั้นการโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้หันมาลองใช้จึงอาจเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของ Atomo

\"กาแฟไร้เมล็ดกาแฟ\" นวัตกรรมอาหารสู้ภาวะโลกเดือด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ที่มา

  • IWF
  • ภาพ REUTERS
related