svasdssvasds

เตือนภัย! เจอ "ยาเสพติด" ผสมอยู่ในซอง "คอลลาเจน-กาแฟ" ขายว่อนโซเชียล

เตือนภัย! เจอ "ยาเสพติด" ผสมอยู่ในซอง "คอลลาเจน-กาแฟ" ขายว่อนโซเชียล

กรมการแพทย์ เตือนภัย หลังตรวจพบ "ยาเสพติด" ทั้งยาอี ยาไอซ์ ผสมอยู่ในซอง "คอลลาเจน-กาแฟ" ขายว่อนในโซเชียล เตือนอันตรายถึงชีวิต

 กรมการแพทย์ โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีการพบส่วนผสมของ “ยาเสพติด” ที่ถูกบรรจุอยู่ในซอง “คอลลาเจน และ กาแฟ” วางขายในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ 

 นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสารเสพติด ที่ถูกบรรจุในซองคอลลาเจนที่วางขายในสื่อสังคมออนไลน์

พบว่ามีสารเสพติดหลายประเภท ได้แก่

• ยาอี ที่ออกฤทธิกระตุ้นประสาทและหลอนประสาท

• ยาไอซ์ ที่มีฤทธิกระตุ้นประสาท ทำให้รู้สึกตื่นตัว

• ยาเค ออกฤทธิหลอนประสาท ทำให้เห็นภาพลวงตา

นอกจากนี้ ยังมียานอนหลับ และคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย เมื่อเสพรวมกันจะเสริมฤทธิให้รุนแรงขึ้น

นพ.มานัส เตือนว่า ผู้เสพแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณ และระยะเวลา และส่วนประกอบของสารเสพติดแต่ละชนิดที่ได้รับด้วย ประกอบกับร่างกายแต่ละคนมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

เตือนภัย! เจอ "ยาเสพติด" ผสมอยู่ในซอง "คอลลาเจน-กาแฟ" ขายว่อนโซเชียล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คุมเข้มพื้นที่หมอชิต สุ่มตรวจยาเสพติดพนักงานขับรถสาธารณะเทศกาลสงกรานต์

• นิด้าโพล เผย ประชาชนกว่า 50 % ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายยาเสพติด ผู้เสพคือผู้ป่วย

• "ยาเสพติดชนิดใหม่" เสพแล้วไม่ง่วง วางขายเกลื่อนท่าขี้เหล็ก ยังไม่เข้าไทย

 นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เผยอีกว่า สารเสพติดที่ถูกพบในซองคอลลาเจน ที่วางขายในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ในปัจจุบัน หากเสพสารเสพติดรวมกันในปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ จะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง อาจมีอาการทางจิตประสาท หูแว่ว หวาดระแวง เกิดพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว อาจเกิดอาการหัวใจวาย หรือกดการหายใจ จนทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

 ทั้งนี้ ผู้ค้ายาเสพติดในปัจจุบัน มักจะหาช่องทางการลักลอบจำหน่าย โดยใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งตรวจสอบได้ยาก ร่วมกับการโฆษณาชวนเชื่อ อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ ทำให้มีคนหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อของความอยากรู้อยากลอง และกลายเป็นเหยื่อของผู้ค้ายาเสพติด

 หากคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยง ต้องรีบเข้าไปพูดคุย ซักถามด้วยเหตุผล และบอกกล่าวถึงโทษพิษภัยของยาเสพติด ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกาย จิตใจ รวมถึงความผิดทางกฎหมาย และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

โดยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165  หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จ.ปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา

• โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี

หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th

related