svasdssvasds

นายกฯ ชี้ปล่อยตัว ทักษิณ 18 ก.พ. เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

นายกฯ ชี้ปล่อยตัว ทักษิณ 18 ก.พ. เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

"เศรษฐา" ชี้ ขั้นตอนปล่อยตัวการพักโทษ "ทักษิณ" 18 ก.พ.นี้ เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ลั่นไม่เขิลอายที่จะปรึกษาอดีตนายกฯ เผยหารือเหล่าทัพคุยเรื่องยกระดับสวัสดิการทหาร และกำชับเข้มมาตรการอารักขาราชวงศ์บุคคลสำคัญ

พักโทษปล่อยตัว "ทักษิณ" เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย 

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวถึงกระบวนการปล่อยตัวนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับพักโทษว่ารับทราบว่าจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้เชื่อว่ากระบวนการทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ในการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลตำรวจ ย้ำกระบวนการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฏหมายซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีการรายงานอะไรเพิ่มเติม 

โดยไม่ทราบช่วงเวลาในการปล่อยตัว เพียงแต่รับทราบว่าจะมีการปล่อยตัววันที่ 18 กุมภาพันธ์ส่วนตัวไม่แน่ใจในข้อกฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการขั้นตอน เชื่อว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อถามว่าเมื่อนายทักษิณได้รับการปล่อยตัวนายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสเข้าไปพบหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า  จะต้องดูตามความเหมาะสม ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการขอคำแนะนำหรือไม่นั้นมองว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคนซึ่งหากมีโอกาสเจอตามงานหรือมีเรื่องจำเป็นและอดีตนายกรัฐมนตรีความชำนาญในเรื่องนั้นเป็นพิเศษส่วนตัวไม่เขินอายที่จะปรึกษาครั้งหนึ่งได้พบพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีได้หารือพูดคุยกันนาน 1 ชั่วโมง 

นายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังคิดไปไกลว่าถึงขั้นตั้งนายทักษิณเข้ามาเป็นคณะทำงาน  ซึ่งไม่ทราบว่านายทักษิณต้องการทำอย่างนั้นหรือไม่

“อยู่ดีดีไปพูดก้าวล่วงอาจจะไม่ถูกต้อง เชื่อว่าท่านจากไปแล้วหลายปีคงมีเรื่องที่อยากจะทำและท่านเองยิ่งไม่สบายอยู่ด้วยก็ต้องดูความเหมาะสม” นายเศรษฐา กล่าว

นายกฯ หารือเหล่าทัพกำชับเข้มมาตรการอารักขาราชวงศ์บุคคลสำคัญ

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังอีกว่า ได้ร่วมรับประทานอาหารพร้อมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงปลัดกระทรวงกลาโหมและเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการพูดคุยอย่างที่เคยได้เปิดเผยไปว่าจะมีการหารือกันอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อวานมีการพูดคุยเรื่องการพัฒนากองทัพ ว่ามีข้อกังวลใจอย่างไรบ้าง 

"รวมถึงเรื่องของอารักขาราชวงศ์และบุคคลสำคัญสำคัญต่างๆ มีการเน้นแย้งว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำอย่างถูกต้อง โดยที่ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกัน" นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่ามีการพูดคุยกันเรื่องของสวัสดิการทหาร หลังจากที่ได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแฟลตตำรวจ จึงสอบถามไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพลทหารซึ่งไม่ใช่แค่มิติที่อยู่อาศัย รวมถึงโรงเรียนช่างทหาร ซึ่งสามารถผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นเรื่องของวิศวะอาชีวะ เป็นการรองรับตลาดแรงงานใหม่ที่จะเข้ามาในไทย ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้แค่ระดับ ปวช. จึงมีการพูดคุยว่าอาจจะยกระดับให้ถึง ปวส.ได้ และต่อยอดร่วมมือทำเอ็มโอยูไปถึงระดับปริญญาตรีได้ 

นอกจากนี้ยังพูดคุยเรื่องของสถานพยาบาลของกองทัพ เช่นโรงพยาบาลภูมิพลของทหารอากาศมีประชาชนเข้าใช้บริการปีละจำนวนเป็น 1,000,000 คน ซึ่งบุคลากรของอยู่ที่ร้อยละ 10 และสถานพยาบาลตามค่ายทหาร ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งลงพื้นที่ครั้งนี้จะไปมอบโฉนดจากกองทัพด้วย และผู้บัญชาการทหารบกจะลงพื้นที่ไปด้วย 

"จะถือโอกาสให้ท่านพาไปดูสถานพยาบาลในค่ายทหารด้วยและโดยชีวิตความเป็นอยู่ของทหาร ถือว่าเป็นข้าราชการบุคลากรที่ต้องให้ความห่วงเป็นใยในทุกภาคส่วนเท่าเทียมกันเสมอภาค ให้อยู่และดูแลอย่างมีศักดิ์ศรี ส่งต่อเรื่องอาชีพที่ในภายหลังหากไม่ได้เป็นทหารแล้วคนเหล่านี้สามารถไปประกอบอาชีพได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมีรายได้ที่เหมาะสมเมื่อคืนมีการพูดคุยในเรื่องเหล่านี้ยาวพอสมควรอาหารอร่อยบรรยากาศดี" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related