svasdssvasds

นายกฯ ยันกู้ 5 แสนล้าน ผ่านสภาฉลุย 320 เสียงรัฐบาลหนุน เชื่อเป็นนโยบายที่ดี

นายกฯ ยันกู้ 5 แสนล้าน ผ่านสภาฉลุย 320 เสียงรัฐบาลหนุน เชื่อเป็นนโยบายที่ดี

นายกฯเศรษฐา เชื่อ 320 เสียงพรรคร่วมหนุน พรบ.กู้เงิน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่านสภา ชี้หาเงินได้ ใช้เงินเป็น แจงโครงการดีเลย์เหตุต้องรับฟังทุกเสียง ยันจำเป็นประเทศอยู่ในวิกฤตที่ต้องกระตุ้น

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีทั้งคนเห็นด้วย เห็นต่าง และสนับสนุน ว่า ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจน และไม่อยากให้สังคมไทย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายตรงข้าม หรือพวกเดียวกัน ไม่อยากให้มีธง อยากให้รับฟังความคิดเห็นว่า ข้อดี ข้อเสีย คืออะไร แล้วหยิบมาพูดคุยกัน

กรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าโครงการดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นจริง และอาจไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้รับเงินจริง นายเศรษฐา ชี้แจงว่า “ผมมั่นใจว่าเสียงของผมมั่นคง พรรคร่วมรัฐบาลมี 320 เสียง เราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน”

นายกฯ มั่นใจคนไทยได้ใช้เงิน 10,000 บาท

เมื่อถามย้ำว่า คนไทยจะมีโอกาสได้ใช้เงิน 10,000 บาท หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มั่นใจ เป็นหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต้องรับฟังเสียงประชาชน โครงการล่าช้าจากที่ประกาศไว้ เพราะทีมงานของเราต้องรับฟังความเห็นทั้งหมด ทั้งเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน กำหนดเกณฑ์คนรวย การจำกัดรายได้ที่พูดคุยและถกเถียงกัน

เมื่อถามว่า โครงการนี้จะมีอุบัติเหตุที่จะทำให้สะดุดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคหรือกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าทำถูกต้องทั้งหมด ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะให้ข้อคิดเห็นในเชิงที่เป็นบวก และเราสามารถทำโครงการนี้ได้ แต่มีจุดเดียวคือ มีคำถามว่า ตอนนี้เราอยู่ในวิกฤตและความจำเป็นที่ต้องทำหรือไม่

ถ้ามีวิกฤตและความจำเป็นคือ เรามีจีดีพีติดลบ แบบนั้นคงไม่ต้องทำ เพราะจีดีพียังไม่ติดลบ แต่ 9-10 ปี ที่ผ่านมา จีดีพีแค่ 1.9 % ต่อปี เราไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ประเทศอื่นโตกว่าเรา 2 เท่า คู่แข่งของไทย ทั้งประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีการเติบโต

รัฐบาลเชื่อว่าเราอยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น

สมัยก่อนอาจจะอยู่ในโลกของเราคนเดียวได้ แต่ปัจจุบันอยู่ในโลกการแข่งขัน ถ้าไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ วันหนึ่งอาจไม่มีใครอยากมาลงทุนที่ไทย รัฐบาลเชื่อว่าเราอยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น แม้คนอื่นจะบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้เงินขนาดนี้ กระตุ้นแค่คนจนที่มีรายต่ำจริงๆก็พอ หากเถียงกันไปอย่างนี้ก็ไม่จบ

กรณีโหวตเตอร์พรรคเพื่อไทยบางส่วน รู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน เนื่องจากมีเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ทั้งที่เกิดจากวินัยการออม และมีรายรับไม่เกิน 7 หมื่นบาท นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจแต่ต้องรับฟังทุกภาคส่วน ทั้งสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย มีความชัดเจนไม่ให้แจกคนรวย และมีการสอบถามถึงกำหนดเกณฑ์คนรวย โดยจะต้องกำหนดตัวเลขให้ชัดเมื่อถึงจุดหนึ่ง

โดยคนที่มีรายได้เกิน 7 หมื่นบาท และเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท รัฐบาลก็ได้ออกโครงการอีรีฟัน หากมีการใช้จ่ายจะได้เงินคืนประมาณ 1 หมื่นบาท เทียบเท่ากับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทีมงานคิดมาแล้ว รวมถึงโครงการระยะยาวในกองทุนส่งเสริมการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีเป้าหมาย เช่น รถอีวี ไมโครชิพ จำนวน 1 แสนล้านบาท จะเริ่มใช้ในเดือน มิ.ย.2567 ที่ต้องทำเร่งด่วน

กรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่า เงินฝาก 5 แสนบาท รวมไปถึงสลากออมสิน หุ้นกู้ กองทุนรวม และเงินเกษียณ ด้วยหรือไม่ นายกฯ ชี้แจงว่า นับเฉพาะเงินฝากอย่างเดียว ไม่นับกองทุนรวมเพราะตรวจสอบไม่ได้ ส่วนเงินเกษียณ ถ้าเข้าไปในบัญชีก็นับรวมด้วย ส่วนเงินสดที่เก็บอยู่ที่บ้านไม่นับ โดยจะเริ่มตรวจสอบว่ามีเงินในบัญชีตั้งแต่เดือน ก.ย.66 ทั้งนี้เมื่อครั้งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เติมเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า 15 % ไม่มีการใช้จ่ายเพราะคนไม่ได้ใช้

เมื่อถามว่า ประชาชนไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะมีเงินพอที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ก่อนหน้านี้เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น นายกฯ กล่าวว่า

“ผมเป็นนายกฯที่มาจากพรรคอะไร พรรคเพื่อไทย สื่อก็บอกว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น ผมก็มั่นใจว่าผมหาเงินได้ใช้เงินเป็น ส่วนเรื่องที่มาของการออกจะเป็นพ.ร.บ.กู้เงิน ผู้ว่าธปท.บอกเองว่านายกฯกู้ดีกว่า ตอนนี้จาก 61 % เป็น 64 % เพราะเพดานเงินกู้อยู่ที่ 70 % ให้กู้เลย ถ้านำมาใส่โครงการฯ บวกกับโครงการอื่น และหากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่มแต่ถ้าจีดีพีมากกว่าหนี้จะลดลง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related