'เทพไท' ทวงความเท่าเทียม อย่าให้ทักษิณเป็นนักโทษเทวดา

ทีมข่าว SPRiNG สัมภาษณ์พิเศษ 'เทพไท เสนพงศ์' อดีต สส.นครศรีธรรมราช ที่เพิ่งได้รับการประกันตัว หลังถูกศาลตัดสินจำคุกคดีทุจริตการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ. มาเป็นเวลา 16 เดือน เขาถูกติดกำไรอีเอ็มไว้ที่ข้อเท้าเพื่อจำกัดพื้นที่ให้อยู่ในบริเวณกรุงเทพมหานครฯ แม้ว่าจะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้นิดหน่อย แต่เขายืนยันว่าดีกว่าถูกจำกัดอิสรภาพอยู่ในเรือนจำที่ต้องทำกิจกรรมตามที่เรือนจำกำหนดคือ ตื่นเช้าและเข้าเรือนนอนภายใน 14.00 น. อย่างไรก็ตาม มันทำให้เขามีเวลาว่างที่จะเข้าไปพบปะพูดคุยกับนักโทษในเรือนจำเหมือนสมัยที่เป็น สส. ลงพื้นที่พบประชาชน อีกทั้งยังมีเวลาตกตะกอนเรื่องราวที่ได้พูดคุยกับคนต่างๆ และจดบันทึกเป็นไดอารี่และบทเพลง

"เขามีคุกเอาไว้ขังคนจน พวกอิทธิพลคนรวยล้นระดับเศรษฐี ถูกจับขังคุกไม่เคยเห็นจะมี สังคมไทยมักจะเป็นเช่นนี้ คนจนถูกย่ำยีไร้ศักดิ์ศรีไร้ความเป็นธรรม"

เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง "คุกมีไว้ขังคนจน" ที่เทพไท เสนพงศ์ แต่งในเรือนจำ สะท้อนความอึดอัดใจของผู้ต้องขังต่อกรณีของ 'ทักษิณ ชินวัตร' ที่เทพไทกล่าวว่า แม้ทักษิณจะหนีคดีอยู่ต่างประเทศมาตั้ง 15 ปี แต่พอเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลฎีกาให้ลดโทษใหม่จาก 10 ปีให้เหลือ 8 ปี อีกทั้งทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษก็ได้ลดเหลือ 1 ปี และออกมาอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจนถึงตอนนี้ โดยไม่มีคนรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาป่วยหรือไม่ป่วย อยู่หรือไม่อยู่ ขณะที่ผู้ต้องขังบางคนติดคุกมา 10-20 ปี จะเป็นจะตาย ก็ออกจากเรือนจำไปโรงพยาบาลลำบาก สะท้อนความไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจน ความเท่าเทียมที่ไม่มีจริง ความยุติธรรมที่คนจนเข้าไม่ถึง เทพไท ย้ำว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องอย่าลักลั่น เพราะคนไม่กี่คนที่ได้ประโยชน์ แต่กระทบกับนักโทษอีกหลายแสนคน 

"นักโทษเป็นชนชั้นที่ต่ำสุดอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ ไม่มีเสียงอะไรอยู่แล้ว ในนั้นถ้าผิดระเบียบอะไรก็ถูกขังห้องมืด ถูกทุบถูกตีถูกเตะ ถูกทำร้ายตายโดยไม่มีความผิดอะไร ไม่สามารถเอาความผิดใครได้ เขารู้สึกเจ็บปวด ได้แต่รอวันลดโทษ แต่ทักษิณเป็นอภิสิทธิ์ชน มันเป็นเทวดาเหรอ?"

คนไทยไม่กลัวผีทักษิณแล้ว เพราะฝ่ายการเมืองกำลังปลุกผีก้าวไกล

เทพไท เล่าว่า ตอนก่อนเข้าไปในคุกตอนนั้นการเมืองไทยเป็นการสู้กันระหว่างทีมพรรคฝ่ายค้านกับทีมลุงตู่ แต่พอออกมามันก็สลับขั้ว ทำให้คนหลายคนช็อก โดยเฉพาะกองเชียร์ทั้ง กปปส. แล้วก็เสื้อแดงที่เวลาก็จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน นั่นก็เป็นผลหนึ่งของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

อดีต สส.นครศรีธรรมราช ย้ำว่า "ในอดีตเขากลัวผีทักษิณ ตอนนี้คนไม่กลัวผีทักษิณแล้ว มันก็มีความรู้สึก กลัวผีก้าวไกล ทำยังไงก็ได้ อย่าให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล" เป็นกระบวนการโดดเดี่ยวก้าวไกลออกไป เพราะหลายฝ่ายกลัวว่าพรรคก้าวไกลจะมาทลายโครงสร้างผลประโยชน์ของกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคการเมืองและนักการเมืองต่างๆ เราจะเห็นได้จากการจัด ครม. ที่วางตัวรัฐมนตรีจากความเห็นชอบของกลุ่มทุน หรือการทำงานของพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลที่การออกนโยบายเป็นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและใช้เงินภาษีประชาชน แต่ไม่เคยแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างที่จะไปลดกำไรของนายทุนเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

ขณะเดียวกัน เทพไท อธิบายว่า รัฐบาลชุดนี้ พรรคร่วมรัฐบาลเหมือนดาวคนละดวงที่แต่ละพรรคร่วมมุ่งหน้าทำงานของตัวเอง โดยที่ไม่ได้บูรณาการกัน ใครหาเสียงอะไรมาก็ทำไป เพราะมันยคือปลาคนละน้ำ แต่ต้องเข้ามาจับมือร่วมกันเพราะความจำเป็นทางการเมือง เพราะความต้องการของกลุ่มทุน และแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อการเลือกตั้งที่ตอนนี้ใช้เงิน 30-100 ล้านบาท

ถ้าจุดยืนไม่ชัด 'ปชป.' ไปไม่รอด วันหน้าจะมีแค่ 'ก้าวไกล' กับ 'ไม่ใช่ก้าวไกล'

เทพไท ชี้ชัดว่า วันข้างหน้าก็เป็นการสู้กันระหว่างก้าวไกลกับที่ไม่ใช่ก้าวไกล เขายอมรับว่าการเมืองภาคใต้มันเปลี่ยนไปเยอะ จากเมื่อก่อนที่เป็นเรื่องการสู้กันระหว่างอุดมการณ์ระบอบทักษิณกับประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์สู้กับทหาร สู้กับเผด็จการ สู้กับทุนสามานย์ สู้กับระบบทักษิณ คนก็เลยเลือก แต่วันนี้ประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าจุดยืนประชาธิปัตย์คืออะไร จะบอกว่าสู้กับเผด็จการก็ไม่ใช่ เพราะไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบอกว่าสู้กับระบอบทักษิณ สู้กับทุนสามานย์มันก็ไม่ใช่ เพราะก็อยากจะไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณอยู่แล้ว แต่ตกขบวน ดังนั้นเมื่อพรรคที่ตัวเองจะเลือกไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน เขาก็ไม่เลือก แล้วถามว่าทำไมเขาเลือกก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ของเขาที่ชัดเจน จะผิดจะถูกอีกเรื่องนึง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ถ้าอยากจะกลับมานั่งในใจคนอีกครั้งก็ต้องมีอุดมการณ์ให้ชัดเจน เพราะอย่างน้อยก็เหมือนคนเคยรักเคยมีเยื่อใยกันมาก่อน  

"ที่ผ่านมาคนใต้ปล่อยให้ประชาธิปัตย์สู้กับทักษิณมาตั้งนาน ก็ยังไม่เห็นชนะ พอลุงตู่มาอาสาจะสู้กับทักษิณ คนใต้ก็เทคะแนนให้ลุงตู่ แต่วันข้างหน้าที่ลุงตู่จะเลิกเล่นการเมือง ภาคใต้ก็ว่าง แต่พวกเขาจะกลับมาประชาธิปัตย์หรือไม่? หรือว่าไปพรรคอื่น? ถ้าประชาธิปัตย์ไม่ปรับตัวให้ทีอุดมการณ์ชัดเจนเรื่องประชาธิปไตยตามที่คนใต้ต้องการ คนก็อาจจะไปพรรคอื่น หรือพรรคก้าวไกล"

ขอเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ต้องขังมีอนาคต

เทพไท เสนอว่า การส่งเสริมอาชีพของผู้ต้องขังที่เตรียมจะพ้นโทษเป็นสิ่งจำเป็น ทุกวันนี้สังคมไทยยังมีอคติ ไม่รับคนที่มีประวัติเคยต้องโทษเข้าทำงาน แต่จะให้เขาไปเปิดกิจการหรือค้าขายออนไลน์ก็เป็นไปได้ยาก เพราะหลายคนเข้ามาตั้งแต่ยังไม่มีไลน์ ผ่านไปหลายปีในห้องขัง พอออกไปจะไปค้าขายออนไลน์จึงเป็นไปไม่ได้ ขณะที่ผู้คุมเองส่วนหใญ่ก็จบช่าง ไม่มีองค์ความรู้ไปพัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขัง ทำหน้าที่เป็นเพียงเป็ดไล่ทุ่ง คือ พานักโทษออกมา และเข้าเรือนนอน เต็มที่ก็นั่งสมาธิ ไม่มีโอกาสได้ฝึกฝนวิชาชีพที่จะออกไปเลี้ยงตัวได้ สุดท้ายพอออกมาก็ไปกระทำความผิด กลับเข้าคุกเหมือนเดิม

ทั้งนี้ เทพไท ยังสะท้อนเสียงไปยังรัฐบาลว่า นโยบาบกระเป๋าเงินดิจิทัลควรต้องให้ผู้ต้องขังในเรือนจำด้วย เพราะพวกเขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิ์ได้เงิน 10,000 บาทเอาไว้ใช้สอยในเรือนจำ บางคนไม่มีญาติมาเยี่ยมเลย ความเป็นอยู่ก็ยากลำบาก ถ้าเขาได้เงินตรงนี้มาก็จะช่วยให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น และพวกเขาก็ไม่ได้เข้าข่ายที่จะไม่ได้รับเงิน อีกทั้งรัฐบาลเองก็เคยหาเสียงไว้ว่าจะให้คนไทยทุกคน ตัวเองจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญา

เมื่อถามว่าหากย้อนเวลาไปได้ ถ้าให้เลือกว่าไม่เป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้แล้วจะไม่ติดคุก ตนจะเลือกแบบไหน?

เทพไท กล่าวว่า สำหรับเขาคิดว่าคุ้มค่าเพราะได้ทำให้สิ่งที่ต้องการ ทำตามอุดมการณ์ของตัวเอง ไม่กลัวว่าใครจะมาด่า ใครจะมาว่า อะไรถูกก็คือถูก อะไรผิด ตัวเองก็ไม่พูด 

รับชมเพิ่มเติม