SHORT CUT
เศรษฐกิจโลก เผชิญกับความผันผวนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม การส่งออก และการท่องเที่ยว อินเดียและอาเซียนน่าสนใจสำหรับการลงทุน แต่ไทยอยู่อันดับกลางๆ จีนมีจุดแข็งด้านอุปทาน (กำลังการผลิต) แต่อุปสงค์ (กำลังซื้อ) อ่อนแอ ประชากรโลกกำลังลดลง สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น แย่งชิงแรงงานทักษะสูง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยซบเซา
ทักษะสำคัญในยุคใหม่ที่ต้องมีคือ ทักษะวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์การชอบเรียนรู้ตลอดเวลา ทักษะการใช้เทคโนโลยีความเป็นมนุษย์และการใส่ใจผู้อื่น
องค์กรในยุคใหม่ ต้องเน้นสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับคน ไม่ลืมความเป็นมนุษย์ ใส่ใจความสุขของพนักงาน บาลานซ์ความสำเร็จกับความสุข
สันติธาร เสถียรไทย ส่องอนาคตความสำเร็จ และโอกาสของไทย ต้องเริ่มต้นจากความสุข ในภาวะวิกฤติโลก ที่ไม่เหมือนเดิม
ในวันที่สถานการณ์โลกกำลังร้อนแรง เต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งสงคราม ทั้งแบบสงครามในสนามรบ และสนามเศรษฐกิจ ทำให้เราพูดถึงเรื่องของ Geopolitics หรือภูมิรัฐศาสตร์เสมอ ๆ
ประเทศไทยเองต้องเดินหมากอย่างไรท่ามกลางสถานการณ์ที่มหาอำนาจกำลังเล่นเกมการเมืองกันอย่างร้อนแรง
SPRiNG พาไปเปิดมุมมองอนาคตความสำเร็จและโอกาสของไทย ที่ต้องเริ่มต้นจากความสุข ในภาวะวิกฤติโลก โดย ดร.สันติธาร เสถียรไทย Future Economy Advisor สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และคณะกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปพร้อม ๆ กัน
อ.สันติธาร มองว่า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์กำลังดุดัน มีผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของประเทศไทยถูกทำให้หยุดชะงักได้มาก เพราะประเทศไทยต้องพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ประเทศไทยเองอยู่ในภาวะกระเป๋าเงินได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นที่มีผลมาจากสงครามในตะวันออก
แต่ในทางกลับกันอินเดีย และภูมิภาคอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงโดดเด่นด้านการลงทุนเราจึงต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส
อ.สันติธาร ชวนมองว่าถึงภูมิภาคอาเซียนจะน่าสนใจแค่ไหนแต่ประเทศไทยกลับอยู่ลำดับกลางๆ รองจาก สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซียที่มีความน่าสนใจด้านการลงทุนมากกว่าไทย
เมื่อมองไปทางประเทศจีนจะพบว่าจีนนั้นมีจุดอ่อนได้ อุปสงค์ หรือกำลังซื้อ แต่มีจุดแข็งด้านอุปทาน คือกำลังการผลิตสินค้า ทำให้ในปัจจุบันเราเห็นจีนไปบุกตลาดต่างๆ ทั่วโลก
ขณะเดียวกันทั่วโลกที่ประชากรกำลังลดลงและอยู่ในสภาวะสังคมผู้สูงอายุทำให้เกิดการแย่งตัวคนเก่งเสนอเงื่อนไขที่ง่ายขึ้นอย่างเช่น Visa ที่เริ่มของง่ายขึ้นให้กับแรงงานประเทศอื่นเสมอๆ
เราควรคิดว่าจะทำอย่างไรจะอยู่กับสถานการณ์โลกที่กำลังร้อนแรงอย่างไร ขณะที่ตลาดหุ้นไทยติดดอยและเย็นเจี๊ยบ อ.สันติธาร กล่าวติดตลก
แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาส สถานการณ์โลกรุนแรงทำให้ประชาชนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพจิตและสุขภาพใจมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองมีจุดแข็งทางด้านศูนย์กลางเรื่องสุขภาพเราคงจะหาโอกาสในส่วนนี้
และเอาเข้าจริงแล้ว AI ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรแต่อยู่กับเรามาตลอดเวลาสิ่งใหม่ที่เข้ามาคือ Generative AI มากกกว่าซึ่ง AI เหล่านี้สามารถมาเติมเต็มปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้มุมหนึ่งเสี่ยงจริงๆ แต่เราก็ต้องคิดว่าจะนำ AI มาทดแทนแรงงานที่ขาดได้อย่างไร อ.สันติธาร กล่าว
อยู่ที่เราพร้อมหรือไม่ที่จะฝึกคนให้เรียนรู้อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้หรือเปล่า เพราะในยุค Disruption ต้องมีการ Reskill ประชากรทุกกลุ่มวัยภายในประเทศ
และเราควรพลิกวิกฤติเป็นโอกาสโดยการดึงคนเก่งจากทั่วโลกในขณะที่โลกวุ่นวาย ก่อนที่ระบบโลกจะเซตตัวมันคือ Industrial Policy เสียด้วยซ้ำไป
ความรู้ในโลกยุคปัจจุบันเหมือนนม ที่นำออกตู้เย็นออกมาก็บูดไว แต่สิ่งที่สำคัญคือ ทักษะวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์เป็นทักษะที่สำคัญที่หลายๆ องค์กรต้องการและต้องใช้เวลาบ่มเพาะ ถึงจะได้รสชาติที่ดี และอีกทักษะที่สำคัญคือ การชอบเรียนรู้ตลอดเวลา การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนวิสกี้ ที่ต้องมีการเติมมีการผสมหารสชาติใหม่ๆ ออกมาและจะถูกปากคนดื่ม
ทักษะพวกนี้จึงจำเป็นอย่างมากในโลกยุคปัจจุบัน และองค์กรหลายองค์กรก็จัดระดับความสำคัญขององค์กรในรูปแบบดังกล่าว
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคิดว่าจะจัดสมดุลอย่างไรเรื่องเทคโนโลยีกับคนและที่สำคัญต้องไม่ลืมความเป็นมนุษย์ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปในอนาคตเรื่องของการใส่ใจกันจะเป็นเรื่องสำคัญ
ในบางเรื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ก็ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย เราต้องรู้ตัวตนและมีหลักการของเรา ต้องดูว่าเรามีของอะไรที่จะอยู่กับโลกใบใหม่ได้ นี่คือหัวใจหลักสำคัญขององค์กรในยุคใหม่
ที่สำคัญทุกองค์กรต้องบาลานซ์เรื่องความสำเร็จและความสุขของพนักงาน ต้องดูว่าเราทำสำเร็จแล้วลูกน้องมีความสุขไหม ถ้าไม่นั่นคือความล้มเหลว เพราะความสุขและความสำเร็จต้องมาควบคู่กัน อ.สันติธาร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง