เฟชบุ๊กเตรียมปรับนโยบายความเป็นส่วนตัวสอดรับกฎอียู

เฟชบุ๊กแถลงการณ์ว่า กำลังเตรียมปรับเปลี่ยนระบบตัวเลือกความเป็นส่วนตัวใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ โดยเฟชบุ๊กจะเริ่มส่งแบบสอบถามดังกล่าวในสัปดาห์นี้

คำถามที่ประชาชนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะได้รับ ประกอบด้วยคำถามว่าเฟชบุ๊กควรใช้ข้อมูลของพวกเขาในทิศทางไหนบ้าง อาทิ โฆษณาที่พวกเขาจะได้รับ หรือจะให้เฟชบุ๊กนำข้อมูลของผู้ใช้ไปให้บริษัทที่สามนำไปกระทำการได้อย่างไรบ้าง รวมถึงให้ผู้ใช้งานเลือกสถานะความเป็นส่วนบุคคลของตนเองในเฟชบุ๊ก ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่า จะให้เฟชบุ๊กรองรับเทคโนโลยีจดจำใบหน้าด้วยหรือไม่ ซึ่งทางเฟชบุ๊กระบุว่า การรองรับระบบจดจำใบหน้านั้นจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะผู้ใช้จะทราบว่ามีใครพยายามใช้ภาพที่ไม่ผ่านการรับรองโดยระบบ มาเจาะบัญชีเฟชบุ๊กของตนหรือไม่

การออกนโยบายใหม่ของเฟชบุ๊กนี้ มีขึ้นภายหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟชบุ๊ก เผชิญกับการซักถามนานกว่า 10 ชั่วโมง โดยคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ต่อกรณีข้อมูลบัญชีผู้ใช้ 87 ล้านบัญชีรั่วไหลไปยังบริษัท เคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ดี การส่งแบบสอบถามและนโยบายใหม่ของเฟชบุ๊ก จะมีผลบังคับใช้กับประชาชนในสหภาพยุโรปก่อน แต่ผู้ใช้อีก 1 พัน 500 ล้านคน ในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ละติน อเมริกา รวมถึงประเทศไทยนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด