ปชช.กว่า 100 คนร่วมม็อบค้านเลื่อนเลือกตั้ง ยัน 20.00 น. สลายกลุ่ม

กลุ่มผู้ชุมนุมค้านเลื่อนเลือกตั้ง จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ รวมตัวกันถือป้ายคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้ง และ ยังคงปักหลักชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณ Sky Walk ปทุมวัน และต่างตะโกนเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ปี 2561 ทั้งนี้ ทางตำรวจได้เข้ามาเจรจากับทางแกนนำให้ยุติการชุมนุมเวลา 20.00 น. ซึ่งทางแกนนำก็ยินดี โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 100 คน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขณะที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เข้าร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งกล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการต่อต้านคอร์รับชั่นยังบังคับใช้อยู่ และสังคมไทยไม่ยอมรับในเรื่องความไม่โปร่งใสที่ส่อถึงการทุจริตหรือการไม่ทำตามกฏหมาย โดยเฉพาะรัฐบาลคสช. ที่เป็นผู้ประกาศตัวจะต่อต้านคอร์รัปชั่น การที่ประชาชนมาร่วมจับโกง มันผิดตรงไหน ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของสีเสื้อ แต่เป็นเรื่องของการร่วมกันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นออกไปได้อย่างไร เพราะไม่สามารถหวังพึ่งรัฐบาลได้ เพราะขณะนี้คนของรัฐบาลกลับเป็นพูดที่ไม่โปร่งใสเสียเอง ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เห็นชอบขยายเวลาประกาศใช้ร่างพ.ร.ป.สส.ออกไป 90 วัน ว่า ประเด็นเรื่องโรดแมปถือเป็นสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะพล.อ.ประยุทธ์พูดถึงการจัดการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว การที่สนช.เลื่อนโรดแมปออกไปอีก 90 วัน ถือเป็นการท้าทายความรู้สึกของประชาชน ส่วนการที่นายกฯ ออกมาระบุว่า ไม่ได้สัญญาณหรืออำนาจในการสั่ง สนช. ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เกรงว่าจะเป็นชนวนเหตุสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ต่อเนื่องจากเรื่องนาฬิการู้ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งการที่เป็นผู้นำแต่ไม่สามารถทำตามในสิ่งที่ตัวเองพูดได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือเหมือนนิทานอีสปเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ซึ่งตนเชื่อว่าที่ผู้ชุมนุมมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะเรื่องนี้ และในทางการเมืองการยืดเวลาเลือกตั้งจะเป็นการพยายามประวิงเพื่อสืบทอดเรื่องอำนาจ เพราะตนเชื่อว่าจะมีใครบางคนอยากอยู่ต่อ ทั้งนี้แม้ว่านายกฯ จะโยนเรื่องทั้งหมดให้สนช.แต่ในทางปฏิบัติ ทำให้รัฐบาลคสช.ไม่สามารถคืนอำนาจให้กับประชาชนตามที่ตนเองได้ประกาศต่อเวทีนานาชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการให้รัฐบาลรักษาคำมั่นสัญญา เป็นคุณสมบัติพื้นฐานการเลื่อนเลือกตั้งจะกี่ครั้งก็เป็นการทำลายความร่าเชื่อถือ ดังนั้นความรับผิดชอบจะต้องตกอยู่ที่ตัวนายกฯ เช่นกัน ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะออกมาเป็นแบบนี้ เพราะตัวพลเอกประยุทธ์ มีอำนาจในการใช้ม.44 แต่ส่วนตัวไม่ได้สนับสนุนให้ใช้ แต่พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่ามีวิธีแก้ไขเป็นของตนเอง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะใช้   ขอบคุณภาพจาก Cr. FB: ปนิตา ภู่วรกุลชัย