หลังจากแคมเปญชอปปิงออนไลน์ 11.11 และ 12.12 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากนักชอปปิงเป็นอย่างมาก ทำให้เสียวหมี่เป็นแบรนด์ติดอันดับทำยอดขายสูงทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่จึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกขึ้น เพื่อเป็นแนวทางการเลือกซื้อของขวัญให้ถูกใจผู้รับในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่นี้
แคมเปญ 12.12 ที่เพิ่งจบไป ประเทศไทยมียอดขายสูงสุด ในกลุ่มสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะ(Wearable) บนชอปปิงออนไลน์ทั้ง Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงตลาดหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ก็ได้ทำลายสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้นำยอดขายในกลุ่มมือถือ ในช่วงแคมเปญ 12.12 เช่นกัน
ด้าน Canalys รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามว่า เสียวหมี่ ติดอันดับ 1 ของโลกในเรื่องของการจัดส่งสินค้าประเภทอุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะ(Wearable) โดยมีการจัดส่งไปแล้วกว่า 12.2 ล้านเครื่อง ซึ่งนั่นก็คือ Mi Smart Band 4 ที่สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก ในเวลาเพียง 8 วันหลังจากเปิดตัว เสียวหมี่มีอุปกรณ์อัจฉริยะมากกว่า 213 ล้านเครื่อง (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 62% จากปีก่อน
จากความสำเร็จข้างต้น เสียวหมี่ จึงได้แนะนำวิธีการเลือกซื้อของขวัญส่งท้ายปีให้ถูกใจผู้รับตามกระแสความนิยมของนักชอปปิง เพื่อให้ผู้รับได้ของขวัญที่ถูกใจ โดยได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งไทยและทั่วโลก แนวทางการเลือกซื้อของขวัญส่งท้ายปี มีดังนี้
สินค้าเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะ
ในงบไม่เกิน 1,300 บาท เสียวหมี่แนะนำ Mi Smart Band 4 สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่คนรักสุขภาพทั้งเมืองไทยและทั่วโลกให้การตอบรับถล่มทลายด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านเครื่อง หลังเปิดตัวเพียง 8 วัน และ 12.2 ล้านเครื่องถูกจำหน่ายไปทั่วโลก จึงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมที่ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลกประเภทอุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะ โดย Mi Smart Band 4 วางจำหน่ายราคา 1,299 บาท และ Mi Band 3 ราคา 790 บาท
สินค้าเพื่อสุขภาพ และป้องกันมลภาวะฝุ่น PM 2.5
สินค้ายอดนิยมที่ลูกค้าต้องมีติดบ้านยิ่งกว่ายาสามัญประจำบ้านในยุคนี้ นั่นคือ เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier โดยในแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา Mi Air Purifier เป็นสินค้าที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในทุกช่องทางทั้ง Lazada, JD Central และ Shopee ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าเป็นของขวัญแทนความห่วงใยที่ดีที่สุดในเวลานี้
โดยมีราคาตามรุ่น ดังนี้ Mi Air Purifier 2H เหมาะสำหรับห้องขนาด 18-31 ตารางเมตร ราคา 3,990 บาท, Mi Air Purifier 3H ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 45 ตารางเมตร ราคา 5,990 บาท และ Mi Air Purifier Pro เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ 35-60 ตารางเมตร ราคา 8,990 บาท
สินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน
สำหรับผู้รับที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และต้องการหาซื้อสินค้าที่ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในราคาที่คุ้มค่า สินค้าในกลุ่มมือถือจากเสียวหมี่ มีราคาดังนี้
สินค้ารุ่นแฟล็กชิพราคาไม่เกิน 20,000 บาท
Mi Note 10 แฟล็กชิพรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ครั้งแรกกับกล้องมือถือที่มีความละเอียดมากที่สุดในโลก
สินค้าในกลุ่มราคาไม่เกิน 10,000 บาท
สินค้าในกลุ่มราคาไม่เกิน 5,000 บาท
ทั้งนี้ การเลือกซื้อสินค้าโดยวิเคราะห์จากการตอบรับของผู้บริโภค จะทำให้เราสามารถใช้เป็นทางเลือกหนึ่งในการมองหาของขวัญในช่วงเทศกาล เพราะนอกจากจะประทับใจแล้ว ยังสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้านั้นได้รับการยอมรับและมีการใช้งานจริงอย่างต่อเนื่อง ไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ Xiaomi