เอ็นไอเอเปิด 3 มาตรการเยียวยาสตาร์ทอัพ ธุรกิจนวัตกรรม พร้อมเร่งปรับแผนเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตไวรัสโควิด 19
3 มาตรการเยียวยาสตาร์ทอัพ ธุรกิจนวัตกรรม เกิดขึ้นจาก เอ็นไอเอ ได้หารือสถาบันการเงินเตรียมออกเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ-จัดงบ 70 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดพื้นที่ฝากผลงานนวัตกรรมผ่านเพจ Startup Thailand
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เอ็นไอเอ มีการพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน การลงทุน การตลาด กฎระเบียบ เครือข่าย รวมถึงการเสนอแนวนโยบาย และจัดทำร่างพระราชบัญญัติการพัฒนา และส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด
สำหรับวิกฤตการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในครั้งนี้ ถือว่าส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมไปทั่วโลก
NIA ได้เตรียมมาตรการเยียวยาเพื่อให้ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูสตาร์ทอัพ ธุรกิจนวัตกรรม หลังวิกฤตผ่านพ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. การสนับสนุนด้านเงินทุนให้เปล่า ผ่านกลไกหลักของสำนักงาน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
เบื้องต้น ได้สนับสนุนทุนนวัตกรรมไปแล้วกว่า 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินอุดหนุนรวม 39.8 ล้านบาท เช่น สบายดี: แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด 19 นวัตกรรมบริการสำหรับการขนย้ายผู้ป่วย หรือผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบบบริหารห่วงโซ่อุปสงค์-อุปทานเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และหน้ากากอนามัยชนิดใช้ซ้ำได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมงบอุดหนุนแบบให้เปล่าไว้สำหรับช่วงหลังวิกฤตโควิด 19 อีกกว่า 70 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจฐานนวัตกรรมทั้งมิติเศรษฐกิจ และสังคม
NIA ได้หารือกับสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ฯลฯ เพื่ออนุมัติเงินกู้เงื่อนไขพิเศษสำหรับสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด 19
2. การสร้างตลาดใหม่และส่งเสริมการเติบโต ด้วยการสร้างโอกาสเข้าถึงตลาดภาครัฐได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการจัดซื้อจัดจ้างของตลาดภาครัฐสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ GPT และ แพลตฟอร์ม "YMID Portal"
วิกฤตไวรัสโควิด19 นี้ก็ได้สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาดังกล่าวกว่า 12 ราย ได้เข้าไปร่วมทำงานจริงกับเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 9 แห่ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถขยายโอกาสต่อไปในภาครัฐอื่นได้
นอกจากนี้ เอ็นไอเอ ยังเตรียมเปิดพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้สตาร์ทอัพมาโปรโมทนวัตกรรมดีๆ ผ่านช่องทางเพจ Startup Thailand ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
สำหรับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและต้องการก้าวสู่ระดับประเทศหรือระดับนานาชาติมากขึ้น NIA ยังมีเครือข่ายกับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น เครือซีพี ไทยยูเนี่ยน สยามคูโบต้า ช.การช่าง ฯลฯ ที่พร้อมจะร่วมลงทุนและผลักดันให้สตาร์ทอัพนั้นได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป
3. การส่งเสริมความรู้และการพัฒนาสตาร์ทอัพ ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับเยาวชน และสตาร์ทอัพทั่วไป ขณะนี้ได้มีการพัฒนาเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น ผ่านสถาบันวิทยาการนวัตกรรม
ภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีมากกว่า 10 หลักสูตร และโครงการ Startup Thailand League ที่เน้นไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มีความสนใจจะเป็นสตาร์ทอัพ ซึ่งมีเข้าร่วมกว่า 2000 ราย
นอกเหนือจากมาตรการดังกล่าว ยังมีอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ธนาคาร และเอกชน ได้เริ่มสนับสนุนสตาร์ทอัพและวิสาหกกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาศ เช่น กระทรวงการคลัง NSTDA DEPA ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ และ Innospace เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-017-5555 เว็บไซต์ และ เฟซบุ๊ก NIA