อายัดบ้านหรู-เปิดเซฟ "นพรัตน์"อดีต ผอ.พศ.เอี่ยวเงินทอนวัด ปปง.คาด ทรัพย์สินอายัดถึงหลักพันล้าน

พล.ต.ต.รมสิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง. )รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยภายหลังสนธิกำลังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำหมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 3.133/2560 ลงวันที่ 10 ต.ค.60 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 108/1 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ราคา 49 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านบุตรสาวของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานนท์ ภรรยาคนปัจจุบันของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินตามมติคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 19/2560 โดยผลการตรวจค้นปปง.อายัดทรัพย์สิน ดังนี้

1.เอกสารแสดงตนประเภทต่างๆของนายนพรัตน์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารกำกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของนายนพรัตน์ เอกสารการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลของนายนพรัตน์และนางพัทธานันท์

2.บัตรประจำตัวของหน่วยงานต่างๆ บัตรเครดิตของนายนพรัตน์ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าบ้านและที่ดิน บ้านเลขที่ 108/1 ถนนราชพฤกษ์เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายนพรัตน์

3.ตู้เซฟขนาดใหญ่ จำนวน 1 ตู้

4.ตู้เซฟขนาดเล็ก จำนวน 2 ตู้

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวว่า ปปง.จะมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไปให้ถึงที่สุดตามมาตรการและขั้นตอนของกฎหมายฟอกเงิน  ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 19/2560 ได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายนพรัตน์ กับพวก ซึ่งได้ร่วมกันกระทำการทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุดการบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2555-2559 รวมทั้งสิ้น 33 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 71,939,017.91 บาท  ซึ่งที่ประชุมมีคำสั่งให้ อายัดบ้านหลังนี้ด้วย เนื่องจาก บ้านหลังนี้มีนายนพรัตน์ เป็นผู้ซื้อ และได้ใช้ชื่อคนใกล้ชิดเป็นผู้ครอบครอง ทำการซื้อ เมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างคดีที่นายนพรัตน์ ดำรงตำแหน่ง ผอ. สำนักพระพุทธศาสนา และจากการเปิดตู้เซฟต้องสงสัยทั้ง 3 ตู้ ไม่พบทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ทั้งนี้ นายนพรัตน์ อยู่ระหว่างหลบหนีไปต่างประเทศแล้วแต่ให้เครือญาติเข้ามาอาศัยอยู่

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามแม่บ้านและรปภ.ได้ยืนยันตรงกันว่า บ้านหลังนี้เป็นของนายนพรัตน์ และหากมีการพาดพิงถึงบุคคลใกล้ชิด ก็จะดำเนินคดีตามความผิดคดีอาญา โดย ปปป. และปปง.จะยืดทรัพย์สินคืนแผ่นดิน และนอกจากบ้านหลังนี้แล้ว ยังมีทรัพย์สิน 13 รายการ ซึ่งมีชื่อผู้อื่น เป็นผู้ครอบครอง ตอนนี้อายัดไปแล้วมูลค่า 71 ล้านบาท และมีอีกจำนวนมากที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดว่า หลักร้อยถึงพันล้านบาท โดยออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว หากถึงวันที่ 12 ตุลาคมนี้แล้ว ยังไม่เดินทางเข้าพบ เจ้าหน้าที่ก็จะออกหมายจับต่อไป โดยทาง ปปง. ยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม จะนำทรัพย์สิน มาคืนแผ่นดินให้ได้