"ประภัตร โพธสุธน" มือคอนเนคชั่นระดับแถวหน้า

การปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารพรรคชาติไทยพัฒนา จากเดิมจะเป็นกลุ่ม"ยังบลัด"ที่นำโดย"ลูกท็อป"วราวุธ ศิลปอาชา ไปเป็น"หนูนา" กัญจนา ศิลปอาชา นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยมี"หนุ่มโสดศรีประจันต์"ประภัตร โพธสุธน กลับมานั่งเป็นเลขาธิการพรรคอีกครั้ง หลังจากที่เคยนั่งเก้าอี้นี้มาแล้วตั้งแต่สมัย"บิ๊กเติ้ง"ยังมีชีวิตอยู่

ถือเป็นการจัดการบริหารรองรับโครงสร้างใหม่ ที่ให้คณะผู้บริหารพรรคผสมผสานกันระหว่างอดีตส.ส.-ผู้อาวุโสในพรรค กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมี"หนูนา"และ"ประภัตร"เป็นตัวเชื่อม

ประภัตร เกิด 1 สิงหาคม 2492 ที่อ.ศรีประจันต์ จบการศึกษาเศรษฐศาสตร์บัณฑิตจากอินเดีย และจบปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิตจากม.ธรรมศาสตร์ ลงเล่นการเมือง ได้เป็นส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ตั้งแต่ปี 2518 ก่อน"บิ๊กเติ้ง"บรรหาร ศิลปอาชา 1 สมัย

จากนั้นเป็นส.ส.สุพรรณฯในสังกัดพรรคชาติไทยมาตลอด เป็นหนึ่งในคนที่บรรหารไว้วางใจมาก จึงได้รับการสนับสนุนเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ปี 2540 และขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ฯ ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ต่อมาปี 2551 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

เพราะพื้นฐานครอบครัวเป็นชาวนาและเจ้าของกิจการโรงสีข้าว จึงมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกลุ่มชาวนาในหลายจังหวัดภาคกลาง เคยมีบทบาทเจรจากับม็อบชาวนาที่ปิดถนนจนยอมสลายตัวหลายครั้ง รวมทั้งนำม็อบชาวนาบุกกระทรวงพาณิชย์ สมัย พรทิวา นาคาศัยเป็นรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ

ประภัตรสร้างพิพิธภัณฑ์ควายไทย และโรงเรียนเกษตรกรชาวนาที่บ้านเกิดเพื่อการอนุรักษ์และเป็นองค์ความรู้ของผู้คนที่สนใจศึกษาเรื่องชาานาและการเกษตร ซึ่งที่เดียวกันนี้ เคยเป็นที่ต้อนรับทักษิณ ชินวัตรกับกลุ่มนักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ที่เดินทางไปศึกษาเรื่องการทำนาข้าว เมื่อปี 2551 กระทั่งโดนถล่มว่า "ขายชาติ" จนพี่ชาย คือประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณฯในขณะนั้น ต้องออกโรงปฏิเสธและตอบโต้ว่าเป็นการเดินทางไปเพื่อทำสัญญาซื้อขายข้าวไทยส่งกลับไปซาอุฯ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนั้น ได้สะท้อนให้เห็นคอนเน็คชั่นที่ดีระหว่างประภัตรกับทักษิณ ซึ่งแฝงด้วยนัยสำคัญทางการเมือง

ความจัดเจนบนเส้นทางการเมืองของประภัตร ยังแสดงออกให้เห็นอีกครั้ง เมื่อเขาพาอดีตส.ส.สุพรรณฯและอ่างทอง ซึ่งรวมทั้ง"ลูกท็อป"วราวุธ เข้าพบและให้การต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะเจ้าบ้านระหว่างนายกฯลงพื้นที่สุพรรณฯ ก่อนการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันถัดมา เมื่อปี 2560 ซึ่งถือเป็นนักการเมืองกลุ่มแรกที่ให้การต้อนรับคณะของพล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างลงพื้นที่และประชุมครม.ในต่างจังหวัด ก่อนจะมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดอื่นๆในเวลาต่อมา

ครั้งนั้น "บิ๊กตู่"ได้เอ่ยปากฝากฝังและขอความร่วมมือในการช่วยกันพัฒนาประเทศกับ"พี่ประภัตร"และกลุ่มการเมืองที่เข้าพบ ขณะที่"คนโตศรีประจันต์"ได้พูดสนับสนุนให้ "บิ๊กตู่"เป็นนายกฯนานๆ 8-10 ปี เพียงแต่ขอให้แบ่งงบประมาณจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงมาช่วยเหลือชาวนา แก้ปัญหาปากท้องประชาชนบ้าง

ถือเป็น"คำหวาน"ที่สะท้อนให้เห็นการเป็นนักเจรจา และพร้อมรับมิตรไมตรีที่ถูกหยิบยื่นให้

การมี"ประภัตร"นั่งรั้งตำแหน่งเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนาอีกรอบ จึงมีความหมายมากกว่าเป็นตัวประสานเฉพาะคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ในพรรคเท่านั้น

คอนเน็คชั่นของเขาอยู่ในลำดับต้นๆในแวดวงการเมืองของไทยคนหนึ่งเช่นกัน