ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
เปลี่ยนโฆษกจาก "เสธ.ไก่อู" เป็น "บี-พุทธิพงษ์" ถึงเวลามืออาชีพบนโรดแม็ปเลือกตั้ง
อาจเป็นเซอร์ไพร้ส์เล็กๆสำหรับแฟนคลับ "บิ๊กตู่" และแฟนคลับ "ไก่อู" พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เมื่อจู่ๆ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลเปลี่ยนมือไปเป็นของพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเปิดตัวไปร่วมงานกับรัฐบาลได้ไม่นาน
ส่วนคนเก่า เสธ.ไก่อู "บิ๊กตู่" แจกแจงกับสื่อว่า ให้ไปทำหน้าที่ใหญ่ในกรมประชาสัมพันธ์เป็นสำคัญ
ที่เป็นเซอร์ไพร้ส์เล็กๆ เพราะงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสธ.ไก่อูรับภารกิจเป็นรองโฆษกมาตั้งแต่ต้น ก่อนจะเลื่อนชั้นเป็นโฆษกรัฐบาลเต็มตัวแทน ร.อ.ยงยุทธ์ มัยลาภ ปี 2558 แม้ตอนหลังจะพ่วงรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 ก็ยังนั่งถ่างขาทำหน้าที่โทรโข่งของรัฐบาลไปพร้อมกัน
ในฐานะนายทหารผู้มีประสบการณ์ด้านการประชาสัมพันธ์ สู้กับฝ่ายการเมืองมาตั้งแต่สมัย ศอฉ.หรือชื่อเต็มศูนย์อำนวยการแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เววชาชีวะ
ด้วยทำหน้าที่อย่างขมักเขม้นจริงจัง ประกอบกับความเป็นหนุ่มน้อยหน้ามล ขวัญใจสาวๆ ทำเอาสมัยนั้น ผู้คนต้องรอชมการแถลงของ ศอฉ.ทุกวัน
เสธ.ไก่อูร้อนแรงขนาดชนะโหวตในห้องเฉลิมไทย พันทิพดอทคอม ชนะพระเอกหนุ่มเคน ธีรเดช ขณะละครออนแอร์ขณะนั้น และในโลกโซเชียลมีการเปลี่ยนชื่อ ศอฉ.ไปเป็น"ศูนย์ไก่อูฉกหัวใจ" ฮิตฮอตแค่ไหนคิดดู
เสธ.ไก่อูกลับมาทำหน้าที่มือประชาสัมพันธ์อีกหน หลัง คสช.รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการ ในปี 2557 ท่ามกลางยุคสมัยสงครามข่าวสารยุคใหม่ โดยเฉพาะผ่านโลกโซเชียลที่ไปไวมาเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน ยังเป็นยุคสมัยที่ฝ่ายการเมือง ไม่ได้ยอมศิโรราบยอมปิดปาก ปิดตา ปิดหู ด้วยเกรงกลัวทหารผู้เข้ามายึดอำนาจเหมือนยุคสมัยก่อนๆ อีกแล้ว
ประกอบกับฝ่ายกลุ่มอำนาจเก่า ใช้ยุทธศาสตร์ "โลกล้อมประทศ" โดยใช้สารพัดวิธีกดดัน วิจารณ์และทำให้ผู้มีอำนาจรัฐาธิปัตย์เสื่อมเสียชื่อเสียง ผสมผสานกับยุคสมัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปฏิเสธรูปแบบบริหารประเทศลักษณะผูกขาดเผด็จการ ปิดกั้นการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ เข้ามาเป็นตัวช่วยอีกหนึ่งปัจจัย
ทำให้การรับมือกับฝ่ายตรงข้ามในทางการเมือง มีปัญหามาโดยตลอด
ยังไม่นับรวมผลงานของรัฐบาล "บิ๊กตู่" ที่ไม่สามารถกลั่นกรองเผยแพร่ไปถึงประชาชนชนิดที่ไม่สามารถสัมผัสเป็นรูปธรรมเหมือนสมัยยุคประชานิยมได้
อย่างดีที่สุดเป็นเพียงสีสันและงานอีเวนต์ของ "บิ๊กตู่" ที่ดูดีในแง่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนบางส่วนเท่านั้น
เมื่อบี-พุทธิพงษ์ เข้ามาร่วมงานรัฐบาล ประเดิมจากรับหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เมื่อ 11 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา
พลันไม่กี่วันถัดมา คนทั่วไปก็ได้เห็น "บิ๊กตู" เปิดเฟซบุ๊คแฟนเพจ Prayut Chan-o-cha รวมทั้ง IG และ ทวิตเตอร์ ชื่อเดียวกัน เปิดทางสำหรับการสื่อสารแบบทูเวย์ ระหว่าง "บิ๊กตู่" กับประชาชน ทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่าง
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยปฏิเสธเรื่องเปิดแอพพลิเคชั่นสื่อสารกับประชาชนมาตลอด แต่ครั้งนี้กลับเปลี่ยนแปลงไป แถมยังทำหน้าที่เป็นแอดมินเอง มิหนำซ้ำ ติดอกติดใจหลังมียอดคนติดตามร่วม 3 แสนคน ถึงขั้นจะมีการไลฟ์สดด้วย
ว่ากันว่า นี่เป็นไอเดียและฝีมือการยกระดับ "บิ๊กตู่" ให้เป็น "ตู่-ติจิทัล" โดยบี-พุทธิพงษ์ คนที่เติบโตบนเส้นทางนักการเมืองอาชีพ อย่างแท้จริง
เขาผ่านเวที ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งเขตพญาไทและห้วยขวาง เคยเป็นรองโฆษกกรุงเทพมหานคร ปี 2547 สมัยผู้ว่าฯอภิรักษ์ โฆษะโยธิน และเคยเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2551 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ช่วงการลุกฮือประท้วงของ นปช.
รวมทั้งเป็น 1 ใน 9 ส.ส.ปชป.ที่ลาออกจากสมาชิกพรรค ไปร่วมขับเคลื่อนมวลชน กปปส.กับ "กำนันเทือก" สุเทพ เทือกสุบรรณ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาว เจอสถานการณ์กดดันทุกรูปแบบทั้งในสภาฯและนอกสภามาโชกโชน จึงสามารถประเมินและมองสถานการณ์ทางการเมืองได้ทะลุปรุโปร่ง
ซึ่งตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่การต่อสู้ทางการเมืองนับจากนี้สู่โหมดเลือกตั้ง จะเต็มไปด้วยความเข้นข้นที่อาจจะมากกว่าช่วงก่อนๆเสียด้วยซ้ำ
เพราะขั้วไหน ฝ่ายไหน ต่างอยากได้ชัยชนะ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลทั้งสิ้น รวมทั้งซีกสนับสนุน "บิ๊กตู่"
จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม หากรัฐบาลและ "บิ๊กตู่" จะเลือกใช้คนอย่าง บี-พุทธิพงษ์
ส่วนเสธ.ไก่อู ก็ไปทำหน้าที่สำคัญอีกด้านหนึ่ง คือนำเสนอเนื้องานของรัฐบาลที้มีอยู่ไม่น้อย ให้โดนใจประชาชน ผ่านสื่อต่างๆของรัฐที่มีอยู่มากมาย รวมกระทั่งสื่อของเอกชน
เป็น 2 พลังขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อเป้าหมายสำคัญ "สานฝันบิ๊กตู่" สู่นายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 โดยมี "ด่านหิน" คือศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น