ร.ท.ปรีชาพล หัวหน้าพรรครูปหล่อแห่ง ทษช.

โผล่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ชนิดที่คอการเมืองงงเป็นไก่ตาแตก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีพูดถึงระดับ “บิ๊กเนม”หลายคนในขั้วเพื่อไทย จะเข้ามาเป็นผู้นำพรรคทษช.สู้ศึกเลือกตั้ง

แม้กระทั่ง “โอ๊ค”พานทองแท้ ยังมีข่าวว่า จะเข้ามาเป็น “ดีเอ็นเอ” ของคนอยู่แดนไกล ภายในพรรคที่ชื่อย่อ เสมือนจงใจให้คล้ายกับชื่อทักษิณ ชินวัตร

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ชื่อเล่น ป๋อม เกิด 15 กันยายน 2523 ปัจจุบัน อายุเพียง 38 ปีเท่านั้น เป็นบุตรของนายเสริมศักดิ์ กับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นหลานชาย นายมนตรี พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคม ซึ่งถือเป็นอาจารย์และผู้สั่งสอนให้ความรู้ด้านการเมือง กับนักการเมืองยุคปัจจุบันหลายต่อหลายคน

จบการศึกษา ระดับมัธยมฯจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ ออสเตรเลีย และระดับปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ออสเตรเลีย

เริ่มต้นรับราชการทหารติดยศร้อยตรี ประจำสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม ก่อนจะย้ายไปช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งนายเสริมศักดิ์ ผู้เป็นบิดา เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยลงเล่นการเมืองตามรอยพ่อและแม่ ในปี พ.ศ. 2550 ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชาชน ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ที่มีอายุเพียง 27 ปี เป็น ส.ส.ชายที่มีอายุน้อยที่สุดในชุดนั้น

ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ร้อยโทปรีชาพล เป็นคนหนึ่งที่อภิปรายการจัดสรรงบประมาณที่ผิดปกติของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะการจัดซื้อรถหุ้มเกราะล้อยางจากยูเครน และได้กล่าวด้วยว่า อีกไม่นานนี้จะได้เห็นแก๊งออฟกลาโหมขึ้นศาล เพราะโครงการดังกล่าว

ปี พ.ศ. 2553 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ ส.ส. 6 คน พ้นสมาชิกภาพ กรณีถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ และบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐ ซึ่งร.ท.ปรีชาพล เป็นหนึ่งใน ส.ส. ที่ถูกตัดสิทธิ์ แต่ก็ชนะเลือกตั้งซ่อม กลับเข้าไปเป็น ส.ส.ได้เช่นเดิม

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้เป็น ส.ส.ขอนแก่น อีกหนึ่งสมัย และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม ของสภาผู้แทนราษฎร

ความโดดเด่นของ ร.ท.ปรีชาพล นอกจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาอินเทรนด์ตามยุคสมัยปัจจุบันแล้ว ลีลาการพูดและตอบคำถามสื่อก็สามารถทำได้ดี เรียบเรียงคำพูดได้ต่อเนื่องไม่ติดขัด ขณะที่วิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่ก็แหลมคม จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัว สำหรับพรรค ทษช. ที่จะเน้นเรื่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นหลัก แต่ในบางเขตเลือกตั้ง ต้องหวังได้ ส.ส.ระบบเขตควบคู่ไปด้วย

“เจ๊เบียบ”นางระเบียบรัตน์ ผู้เป็นแม่ เคยให้สัมภาษณ์สื่อ แสดงความห่วงใยลูกชาย เมื่อครั้งก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองช่วงแรกๆว่า

“ไม่ว่าจะปกครองระบบไหน ขอให้มี “ความยุติธรรม” อย่ามีอคติ อย่าเหยียด อย่าเห็นบุคคลอีกฝ่ายด้อยกว่ากันเยอะมาก มิฉะนั้น จะอยู่กันไม่ไหว”

“ยอมรับว่าสถานการณ์เวลานี้ ที่ห่วงมากที่สุด คือไม่รู้จะพูดดีหรือไม่พูดดี จะพูดออกสื่อได้หรือไม่ แม่แดง(ชื่อเล่นเจ๊เบียบ) มีลูกชายที่เป็นนักการเมือง ยอมรับว่าห่วงลูกมาก”

“เขาอายุแค่ 37 ปี เป็น ส.ส. มาแล้ว 3 สมัย แล้วเขาจะต้องอยู่ดูแลประเทศไทยต่อไปอีกนานแสนนาน เพราะพ่อแม่ตั้งเป้าหมายให้เขาอยู่คู่กับประชาชนไปตลอด อยากให้เขาเดินสู่ทิศทางการเมืองที่สูงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้”

หนึ่งปีกว่าผ่านไป ลูกชายที่ “เจ๊เบียบ”บอกเป็นห่วงและประสบการณ์ยังน้อย ตอนนี้เลื่อนชั้น ขึ้นไปเป็นหัวหน้าพรรคสู้ศึกเลือกตั้งแล้ว

ท่ามกลางกติกาที่จะทำให้การแข่งขัน เข้มข้นดุเดือดถึงขีดสุด