svasdssvasds

"บ้านใหญ่นครปฐม" เลือกชทพ. ทางสายกลางของตระกูลสะสมทรัพย์

"บ้านใหญ่นครปฐม" เลือกชทพ. ทางสายกลางของตระกูลสะสมทรัพย์

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ในที่สุด"บ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ ซึ่งเปี่ยมทั้งบารมีการเมืองและศูนย์กลางของกลุ่มธุรกิจในจังหวัดนครปฐม ก็ตัดสินใจเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นบ้านหลังใหม่

หลังจากก่อนหน้านี้ ถูกจับตาจากคอการเมืองทั้งพันธุ์แท้พันธุ์เทียมว่า จะเลือกไปสังกัดพรรคไหน

เนื่องจากดูเหมือนจะเสน่ห์แรง ถูกทาบทามจากหลายพรรคหลายกลุ่ม แม้กระทั่ง "ท่านผู้นำ"ในทำเนียบรัฐบาลปัจจุบัน อย่าง"บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เพราะหากย้อนหลังกลับไป มีแกนนำในพรรคเพื่อไทยโพสต์ภาพ"ก๊วนกอล์ฟ" ประกอบด้วย"บิ๊กตู่"และ"บิ๊กฉัตร" ประกบข้างด้วยสมาชิก"บ้านใหญ่"ของเมืององค์พระปฐมเจดีย์ ขึ้นสื่อโซเชียล

"บ้านใหญ่นครปฐม" เลือกชทพ. ทางสายกลางของตระกูลสะสมทรัพย์

ก่อนจะมีการติดตามค้นหาที่มาที่ไปโดยสื่อจากหลายสำนัก จนประติดประต่อได้ใจความที่ไม่ค่อยจะตรงกันนักโดยเฉพาะเรื่องวันเวลาถ่ายภาพ แต่โดยสรุปทางซีกนายกฯบอกว่า ไปทดลองออกรอบที่สนามนิกันติ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสนามระดับโลกของตระกูลสะสมทรัพย์ และบังเอิญเจอกับเจ้าของสนาม จึงถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก

แต่ในแวดวงการเมือง กลับวิจารณ์สนั่นเมือง เรื่องเดินสาย"ดูด"เสียมากกว่า ก่อนจะไปถึงคิว"คุณปลื้ม"บ้านใหญ่แห่งหนองมน ชลบุรี

ด้วยภาพที่ปรากฎบนโซเชียลภาพนี้นี่เอง ที่ทำให้ในเวลาต่อมาไม่นานนัก แกนนำสำคัญในพรรคเพื่อไทย ต้องยกชุดใหญ่ไปออกรอบที่สนามเดียวกันนี้ พร้อมเอ่ยปากทาบทามให้ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไป

เนื่องจากก่อนหน้านี้ กลุ่มตระกูลสะสมทรัพย์ ยืนหยัดอยู่ร่วมพรรคเดียวกันมาตั้งแต่ไทยรักไทย ปี 2544 และเลือกตั้งทุกครั้ง แทบจะเหมาเก้าอี้ ส.ส.ทั้งจังหวัดแบบไม่ยากเย็นนัก

ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ในงานวันคล้ายวันเกิดไชยา น้องคนที่ 3 แห่งตระกูลสะสมทรัพย์ "เสี่ยหนู"อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ว่ากันว่า เวลานี้เนื้อหอมสุดๆ ก็ต้องเดินทางไปร่วมอวยพรถึงถิ่นด้วยตัวเองอีกคน ทำให้มีข่าวแว่วๆตามมาว่า ตระกูลสะสมทรัพย์ เตรียมทิ้งพรรคเพื่อไทยไปอยู่กับ"เสี่ยหนู"

ก่อนที่สุดท้าย จะกลายเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ยุคคนรุ่นใหม่อย่างวราวุธ ศิลปอาชา ที่ได้"บ้านใหญ่"นครปฐมไปอยู่ด้วย

หากจะถามว่า เหตุไฉน ทั้งพรรคการเมืองใหญ่ รวมไปกระทั่งศูนย์กลางอำนาจอย่างทำเนียบรัฐบาลถึงแย่งชิงกันนัก

คำตอบมีหลายปัจจัย ตั้งแต่เรื่องบารมีทางการเมืองของ"สะสมทรัพย์" ที่แม้จะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ก็ยังไม่มีลดทอนลงเหมือน"บ้านใหญ่"ในอีกหลายจังหวัดที่ปัจจุบันได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

"บ้านใหญ่นครปฐม" ไม่เพียงการันตีเก้าอี้ส.ส.4 ตัวแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ลึกลงไปกว่านั้น พวกเขามีฐานการเมืองท้องถิ่นในทุกระดับที่เข้มแข็งมาก

สะสมทรัพย์ ยังมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและต่อยอดจากค้าวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง โกดังข้าว กิจการรถบรรทุก ธุรกิจทัวร์ กระทั่งถึงกิจการรับฝังกลบขยะ ซึ่งในกลุ่มลูกค้าใหญ่ที่ใช้บริการอยู่นั้น มีรวมกทม.หรือกรุงเทพมหานคร รวมอยู่ด้วย

ยังไม่นับ นิกันติ กอล์ฟคลับ สนามกอล์ฟระดับระดับอินเตอร์ที่ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟทั่วโลกว่าท้าทายและดีไซน์ได้สวยงามเร้าใจมาก

ทำให้ธุรกิจในเครือข่ายของสะสมทรัพย์ รวมมูลค่าแล้วหลายพันล้านบาท นั่นหมายถึงสามารถยืนหยัดและเดินบนเส้นทางการเมืองได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องหวังพึ่งพรรคการเมืองที่สังกัด

ขณะที่มวลชนในพื้นที่ หรือแม้แต่สิงห์รถบรรทุก ก็ถือว่าไม่ธรรมดา และเคยผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว

ตระกูลสะสมทรัพย์ เคยร่วมก่อตั้งพร้อมทำหน้าที่บริหารพรรคเอกภาพ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่อ้าแขนรับนายเนวิน ชิดชอบ และกลุ่มผู้สมัครส.ส.จากจังหวัดบุรีรัมย์ หลังแยกทางกับพรรคชาติไทยในยุคสมัยที่นายบรรหารศิลปอาชา ถูกกดดันจาก"พ่อใหญ่จิ๋ว"พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ แห่งพรรคความหวังใหม่ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จนสุดท้ายต้องตัดสินใจยุบสภาเป็นการแก้ลำ

เท่ากับเป็นมิตรในยามยาก ระหว่างที่หาพรรคสังกัดไม่ได้ เพราะแม้แต่พรรคมวลชนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังตั้งเงื่อนไข จึงเป็นสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นและมีความหมายทางการเมืองตั้งแต่นั้น

หลังรัฐประหาร เดือนพฤษภาคม 2557 ช่วงที่มีการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลตามจังหวัดต่างๆ เครือข่ายกลุ่มการเมืองนครปฐม รวมแม้กระทั่งบ้าน 3 หลังของกลุ่มตระกูลสะสมทรัพย์ เคยถูกเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมกัน เข้าตรวจค้น อย่างน้อย 2 ครั้ง ในเดือนมีนาคม และเดือนพฤษภาคม 2559 ภายใต้ชื่อยุทธการ "นครปฐมร่มเย็น"ได้ของกลางจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอาวุธปืนนับสิบกระบอก

"บ้านใหญ่นครปฐม" เลือกชทพ. ทางสายกลางของตระกูลสะสมทรัพย์

"บ้านใหญ่นครปฐม" เลือกชทพ. ทางสายกลางของตระกูลสะสมทรัพย์

ทั้งนี้สาเหตุการตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งดูจะสอดคล้องกับในความรู้สึกของผู้คนโดยทั่วไป ที่มักมองไปยังจังหวัดนครปฐมว่าเป็นเมืองของผู้มีอิทธิพล

ดังนั้น จึงอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้"บ้านใหญ่"สะสมทรัพย์ ไม่เลือกที่จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เนื่องด้วยไม่ชอบวิธีการที่ใช้ คล้ายเป็นการ"หักหน้า" ซึ่งต่างจากกรณีตระกูลคุณปลื้ม จังหวัดชลบุรี ซึ่งรัฐบาลเลือกใช้การเจรจา และให้ตำแหน่งทางการรองรับ โดยไม่มีเรื่องเข้าตรวจค้นหรือกล่าวหา แม้นว่าความรู้สึกของคนทั่วไป มอง 2 ตระกูลนี้ไม่แตกต่างกันนัก

ประการที่ 2 พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นอีก 1 ใน 2 พรรคที่มีโอกาสถูกดึงเข้าร่วมรัฐบาลแน่ๆ ไม่ว่าพรรคไหนหรือขั้วไหนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีกพรรคคือภูมิใจไทย ซึ่งขณะนี้มีอดีตส.ส.เปิดตัวเจ้าร่วมมากพอสมควรแล้ว

การเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา ยังจะทำให้การแข่งขันชิงเก้าอี้ส.ส.ในนครปฐมไม่ตัองเข้มข้นชนิดต้องบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตระกูลแก้วพิจิตรของชทพ.ถือได้ว่าฐานเสียงเข้มแข็งตลอดมา

นอกจากนี้ ในทางการเมืองยุคสมัยปัจจุบัน รวมถึงเลือกตั้งครั้งหน้า การแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลจะดุเดือดยิ่งกว่าครั้งก่อนๆ โดยพรรคตัวแปรสำคัญจะเป็นพรรคขนาดกลางอย่างภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา

การเจรจาต่อรองจะมีราคาและมีพลังชนิดที่พรรคใหญ่หรือพรรคแกนนำที่หวังจัดตั้งรัฐบาลไม่อาจปฏิเสธได้

การเลือกชทพ.ของบ้านใหญ่นครปฐม จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

related