ศาลตาก สั่งปล่อยตัว "ณิชา" พ้นคดีพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์

  คำสั่งของศาล จ.ตาก ระบุ นางสาวณิชา มิใช่ผู้กระทำความผิด คดีพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นางสาวณิชา เกียรธนะ ไพบูลย์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตาก โดยได้เข้าพบนายยงยุทธ ธรรมนิตยางกุร ยุติธรรม จ.ตาก เพื่อใช้สิทธิร้องการเยียวยา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ที่นางสาวณิชา ตกเป็นผู้ต้องหาพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สภ.บ้านตาก อ.บ้านตาก ทั้งนี้หลังจากที่ทาง พันตำรวจโทอดุลย์ รวมชัย ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้อง ลงวันที่ 11 มกราคม 2561 รวม 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 มีกำหนด 6 วัน และจะครบวันที่ 18 มกราคม 2561 นั้น จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ตามคำสั่งของกองบังคับการตำรวจภูธร ต.ตาก ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 ได้ความว่า นางสาวณิชา มิใช่ผู้กระทำความผิด ในคดีนี้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องขังผู้ต้องหาต่อไป พนักงานสอบสวนจึงขอประทานต่อศาล จ.ตากให้ปล่อยตัว ทันที ที่ได้รับคำสั่งศาลให้ปล่อยตัว นางสาวณิชา พร้อมด้วยทนายความจึงรีบเดินทางไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานยุติธรรม จ.ตาก นายยงยุทธ กล่าวว่า กรณีนางสาวณิชานั้น น่าจะเข้าข่ายถูกละเมิดสิทธิ ซึ่งจะสามารถรับเงินชดเชยจากค่าทนายความ ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ของคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือ จ.ตาก ซึ่งมีผู้ว่าราชการ จ.ตาก เป็นประธาน ว่า จะเข้าหลักเกณฑ์ข้อใด เช่นความยากจน การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และฐานะความเป็นอยู่ เป็นต้น นางสาวณิชา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ต้องขอบคุณ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะ ที่เร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรม หลังจากได้รับการร้องเรียน ในส่วนของตำรวจภูธรบ้านตากนั้น ทางตำรวจที่ กทม.ได้อธิบายให้ตนเองเข้าใจถึงกระบวนการทำงานแล้ว แต่ก็อยากให้เป็นอุทธาหรณ์ ที่ควรจะปรับปรุงแก้ไขในกระบวนการสอบสวน และขอฝากเตือนประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งนี้ ให้ตั้งสติ และรีบไปแจ้งตำรวจในพื้นที่ก่อน หรือแจ้งไปที่ศูนย์บริการ 1155 ซึ่งมีความเชียวชาญในเรืองนี้ นางสาวณิชา กล่าวว่า ในส่วนของการไร้อิสระภาพที่ถูกคุมขังโดยไม่มีความผิดนั้น จะเรียกร้อง่การเยียวยาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ จะต้องปรึกษากับทนายความอีกครั้งหนึ่ง