svasdssvasds

15 แกนนำ นปช. รอลุ้นประกันตัวหลังอัยการสั่งฟ้องคดีชุมนุมข้างทำเนียบ เมื่อปี 52

15 แกนนำ นปช. รอลุ้นประกันตัวหลังอัยการสั่งฟ้องคดีชุมนุมข้างทำเนียบ เมื่อปี 52

อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 มีคำสั่งฟ้อง 15 แกนนำ นปช. ชุมนุมข้างทำเนียบเมื่อปี 2552 พร้อมเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 2 แสนบาท

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ มณี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายสมชาย ไพบูลย์ นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำตัวส่งฟ้อง ต่อศาลหลังอัยการมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 15 แกนนำ นปช. ในคดีการชุมนุมปี 2552 ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ในข้อหาร่วมกัน ยุยงส่งเสริมก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามกฎหมายอาญามาตรา 116

15 แกนนำ นปช. รอลุ้นประกันตัวหลังอัยการสั่งฟ้องคดีชุมนุมข้างทำเนียบ เมื่อปี 52

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในวันนี้ไม่มีความกังวลใด ๆ กับการที่อัยการสั่งฟ้อง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่มี ซึ่งการที่อัยการสั่งฟ้องในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ตนสงสัย เนื่องจากตนถูกดำเนินคดีทั้งในกรุงเทพและพัทยาไปแล้วจากคดีการชุมชนุมในปี 2552 และได้ทำเรื่องขอความเป็นธรรม ไปยังอัยการสูงสุดว่าเป็นการฟ้องซ้ำซ้อนหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา และยังไม่มีข้อสรุปจากอัยการสูงสุด ส่วนในวันนี้ที่จะถูกสั่งฟ้องนั้น ตนและแกนนำได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว และต่อสู้ตามกระบวนการต่อไป และยืนยันว่าทุกคดีความ พร้อมที่ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการร้องขอความเป็นธรรมด้วย เพราะการฟ้องคดีซ้ำซ้อนเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

15 แกนนำ นปช. รอลุ้นประกันตัวหลังอัยการสั่งฟ้องคดีชุมนุมข้างทำเนียบ เมื่อปี 52

ทั้งนี้ ตนอยากให้บรรทัดฐานของกรณีนี้ ใช้เทียบเคียงกับคดีอื่นๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง เช่น กปปส. ที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยในคดีขัดขวางการเลือกตั้งที่ จ.พัทลุงไปแล้ว ก็อยากให้มีการดำเนินคดีกับแกนนำ หรือผู้ร่วมสนับสนุนในส่วนกลาง ที่มีการเชิญชวนปลุกระดมให้มีการขัดขวางการเลือกตั้งด้วย รวมไปถึงยังมีการก่อเหตุใช้อาวุธปืน และอาวุธสงคราม และปรากฎภาพใบหน้าชายฉกรรจ์ในกลุ่ม กปปส. ถืออาวุธอย่างชัดเจน แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ จึงอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมที่มีมาตรฐานเดียวกัน ชัดเจน ตรงไปตรงมา และยืนยันว่าตนไม่ได้มีความคิดที่จะตามหาเรื่องหรือคิดพยาบาทใดๆ กับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองอื่นๆ เพียงแต่อยากเห็นกระบวนการยุติธรรมไม่เลือกฝ่าย และเท่าเทียมกันในทุกๆ คดี

ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับการชุมนุมที่แกนนำ นปช.ได้นำมวลชน บุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยาในปี 2552 ซึ่งได้มีการส่งฟ้องต่อศาลไปแล้วอยู่ระหว่างกระบวนพิจารณา โดยส่วนตัวมองว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นในในปี 2552 เป็นกรณีเดียวกันแต่มีเหตุการณ์ย่อยเกิดขึ้นหลายจุด ดังนั้นหากจะมีการดำเนินคดีก็ควรรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกัน ควรจะฟ้องในจุดที่เป็นศูนย์กลางใหญ่ จึงตั้งขอสังเกตว่าเหตุใดจึงได้มีการนำคดีนี้ขึ้นมาดำเนินการอีกครั้ง ทั้งที่เหตุการณ์ผ่านไปนานแล้วถึง 9 ปี ซึ่งการที่อัยการปัดฝุ่นนำคดีนี้ขึ้นมาส่งฟ้องในครั้งนี้ สงสัยว่าเป็นความตั้งใจของ คสช. หรือไม่

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในการชุมนุมเมื่อปี 2552 นั้น แกนนำ นปช.ทุกคนไม่ได้มีการกระทำผิด และไม่มีเจตนาจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย เป็นการชุมนุมอย่างสงบสันติและปราศจากอาวุธ เป็นเพียงแค่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น โดยในวันนี้ก็ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัวคนละ 2 แสนบาท

สำหรับแกนนำ นปช. ที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงษ์ , นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นายอดิศร เพียงเกตุ , นายเหวง โตจิราการ , นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง , นายพีระ พริ้งกลาง ,นายณรงค์ศักดิ์ มณี , นายชินวัฒน์ หาบุญพาด , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท , นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ , นายสมชาย ไพบูลย์ , นายพายัพ ปั้นเกตุ , นายเมธี อมรวุฒิกุล และนายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง

related