ตำรวจเชิญตัวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สอบสวนปมโพสต์แอบอ้างคดีเงินทอนวัด เตรียมขยายผลจับเจ้าอาวาส 4 วัดดัง ขณะที่เจ้าตัวโทษสื่อ ลงข่าวทำสับสนจนเข้าใจคลาดเคลื่อน
ตำรวจกองปราบปราม ได้เชิญตัว นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แอบอ้างว่าคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 4 เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลจับกุมเจ้าอาวาสวัดดัง 4 แห่ง ประกอบด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัว นายพิสิฐชัย กลับและไม่มีการดำเนินคดีใดๆ สำหรับเจ้าอาวาสทั้ง 4 วัด ที่ถูกพาดพิงประกอบด้วย
ขณะที่ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร ต้นสังกัดของนายพิสิฐชัย รายงานข้อเท็จจริงแล้ว ก่อนพิจารณาว่าต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยหรือไม่ ส่วนกรณีนายพิสิฐชัย ถูกแต่งตังให้เป็นคณะกรรมการติดตามข้อมูลข่าวสาร ของมหาเถรสมาคมนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านพลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ข้อมูลกระทำความผิด เกี่ยวกับ 4 วัด ที่ถูกพาดพิงถึงแต่อย่างใด และไม่มั่นใจว่านายพิสิฐชัย นำข้อมูลมาจากไหน เพราะคดีเงินทอนวัดตำรวจเป็นผู้ดูแลไม่ใช่ดีเอสไอแล้ว
ล่าสุดนายพิสิฐชัย โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุกรณีโพสต์ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินการกับวัดใหญ่ 4 วัดนั้น เกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน หลังจากติดตามข่าวจากสื่อมวลชนหลายสำนัก จึงกราบขออภัย
สำหรับนายพิสิฐชัย ถือเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่มีความใกล้ชิดคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก เคยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล แห่งวัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ เป็นที่ปรึกษาอธิการบดี (พระพรหมบัณฑิต) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้านกฎหมาย สมัยที่ 4 เป็นอนุกรรมการ (ไต่สวน) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการโครงการอิ่มบุญส่งเสริมเยาวชนปฎิบัติธรรม ในอุปถัมภ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร คณะกรรมการติดตามข้อมูลข่าวสาร มหาเถรสมาคม
นอกจากนี้ช่วงที่ พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ถูกเด้งออกจากเก้าอี้ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ด้วยความสนิทสนมกับคณะสงฆ์ และเคยทำคดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นและคดีวัดพระธรรมกาย ทำให้มีชื่อนายพิสิฐชัย เป็นแคนดิเดทลุ้นตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว