นักท่องเที่ยวสาวจีน ร้องตำรวจสน.หัวหมาก เอาผิดไกด์เถื่อนรวมหัวเจ้าหน้าที่ แก้ยอดค่าปรับทิ้งขยะ จาก 2,000 เป็น 3,000 บาท ซ้ำขู่ระวังมาเฟีย วอนรัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหา
ที่สน.หัวหมาก น.ส.จาง เจี้ยน อายุ 37 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนพร้อมครอบครัว เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน หลังถูกมัคคุเทศก์ โกงค่าปรับ กรณีทิ้งขยะสูงกว่าความเป็นจริง น.ส.จาง เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวรวม 5 คนมา เที่ยวประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา กับบริษัททัวร์ ชื่อ ไท่เป่าอัน และมีมัคคุเทศก์ชื่อ “อาหาน”เป็นชาวจีน และผู้ช่วยไกด์ ชื่อ นายอุดม แซ่เยีย หรือ “อาเซิน”
ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี บิดาของตน คือ นาย อู๋เจี้ยนหมิง ที่มีอายุมาก ได้ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นที่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจพบและจับกุมพร้อมแจ้งข้อหา“ทิ้งสิ่งปฏิกูลในที่สาธารณะ” ก่อนเชิญตัวบิดาตนไปเสียค่าปรับ 2,000 บาท แต่ไกด์ที่ชื่อ “อาหาน” เข้ามาเร่งรัดกับตน บอกว่าเรือกำลังจะออก จึงให้นายอุดม จัดการเรื่องค่าปรับแทน พร้อมยึดหนังสือเดินทางของบิดาของตนไว้ให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจ
ทั้งนี้ เมื่อกลับจากท่องเที่ยวเสร็จ และกลับมายังจุดเดิม นายอุดม ได้นำพาสปอร์ตของบิดามาคืนให้พร้อมกับใบเสร็จค่าปรับ ที่มีตัวเลขแก้ไขจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ตนจึงสอบถาม และได้คำตอบว่า หากมีการยึดพาสปอร์ต ปกติจะต้องปรับ 5,000 บาท
แต่ตนเป็นไกด์นำทัวร์ได้ช่วยพูดให้เจ้าหน้าที่เทศกิจปรับแค่ 3,000 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง จึงจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจพัทยา แต่นายอุดม และ อาหาน ห้ามปรามไว้ โดยบอกว่าพัทยานั้นอันตราย มีแต่เจ้าหน้าที่มาเฟีย ทำให้ตนไม่กล้าไปแจ้งความ และเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ จึงได้นำหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงินเข้าแจ้งความกับตำรวจสน.หัวหมาก เนื่องจากตนเองพักอยู่ที่โรงแรมในพื้นที่ดังกล่าว
น.ส.จาง ระบุอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากไกด์ที่นำเที่ยวควรจะปกป้อง และไม่ควรหลอกลวงตนในเรื่องของค่าปรับ และหวังว่าเรื่องของตนเองจะต้องถูกแก้ไขโดยรัฐบาลไทย ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เบื้องต้นตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจท่องเที่ยวให้นำตัวไกด์ทั้ง 2 รายมาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป