svasdssvasds

เดินหน้าไม่หยุด "บิ๊กโจ๊ก" ลุยยึดทรัพย์นายทุนดอกโหดพันล้าน

เดินหน้าไม่หยุด "บิ๊กโจ๊ก" ลุยยึดทรัพย์นายทุนดอกโหดพันล้าน

"บิ๊กโจ๊ก" บุกยึดทรัพย์นายทุนเงินกู้กว่าพันล้านบาท พร้อมเดินหน้าเจรจาปัญหาค่าเช่าที่ดินทำกินให้เกษตรกรครั้งที่ 3

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) ,พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 สนธิกำลัง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.ป สน.ลุมพินี สนธิกำลังศปอส.ตร. ปูพรมตรวจค้น 12 จุด ใน 5จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ

เดินหน้าไม่หยุด "บิ๊กโจ๊ก" ลุยยึดทรัพย์นายทุนดอกโหดพันล้าน

ปฎิบัติการครั้งนี้ตำรวจจากชุดศปฉช.ตร กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นนายทุนหนี้นอกระบบ โดยเน้นหนักไปที่จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย นางมณีกษุมา สุขเจริญ, น.ส.สายสุนีย์ เหลืองจารุ, นายพิสิษฐ์ ศิริยุทธ์ และ น.ส.รัชนก เอี่ยมแสงชัยรัตน์ ในความผิดฐาน "ร่วมกันให้ผู้อื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ นอกจากดอกเบี้ยจะเอาหรือรับเอาซึ่งกำไรอื่นเป็นเงินหรือสิ่งของหรืออื่นๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”พร้อมยึดอายัดทรัพย์ มูลค่า 420 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง,ร้านขายวัสดุก่อสร้าง 1 หลัง ,โรงงานแปรรูปอาหาร 1 แห่ง,โกดังสินค้า4 หลัง,รถบรรทุก3คัน,รถยนต์1 คันและรถจักรยานยนต์ 2คัน

นอกจากนี้ได้ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ตามเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบของประชาชน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ตรวจค้นบ้านเลขที่ 67/7 หมู่ 11แขวงศาลาธรรมศาลา เขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นบ้านของนางอุไร หรือ เจ้อุไร วรวิทย์จรุงวิวัฒน์ ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 700 ฉบับ รวมเนื้อที่ 1,050 ไร่ มูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยระหว่างตรวจค้นไม่พบตัวนางอุไร ซึ่งช่วงเย็นวันนี้ทางนางอุไรได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว

 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปฎิบัติการครั้งนี้ได้ตรวจค้นนายทุนเงินกู้ที่มีพฤติกรรมปล่อยกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด หลังพบการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ในส่วนจ.นครราชสีมาพบว่าเป็นนายทุนใหญ่ ที่มีพฤติกรรมให้ลูกหนี้ทำสัญญาขายฝาก นำที่ดินมาเป็นหลักประกันพร้อมเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการปราบปรามหนี้นอกระบบทางรัฐบาลพลเอก ประยุทธจันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ และฉ้อโกงประชาชนทีสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ที่ผ่านมานำมาตรการทางกฎหมายเข้ามาใช้ ทั้งมาตรการทางภาษีของกรมสรรพากร มาตรการยึดทรัพย์ของสำนักงานปปง. และมาตรการกฎหมายอาญาฟอกเงิน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ คืนความเป็นธรรมนำโฉนดที่ดินที่ถูกกลุ่มนายทุนยึดไปเป็นสิบปีกลับมาสู่เจ้าของที่แท้จริงที่สำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำภาคการเกษตร เพื่อมีที่ทำกินเลี้ยงชีพ และอยู่กันพร้อมหน้าเหมือนสังคมเมื่อก่อน

เดินหน้าไม่หยุด "บิ๊กโจ๊ก" ลุยยึดทรัพย์นายทุนดอกโหดพันล้าน

นอกจากปฏิบัติการขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบแล้ว ทางชุดทำงานของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 3 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่อีสาน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ทางรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งที่ผ่านมาเห็นได้ว่าเกษตรกรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายราย ได้ทำการเช่าที่ดินทำกินกับนายทุน เพื่อประกอบการเกษตรหาเลี้ยงชีพ ไม่สามารถหาเงินค่าเช่าที่ดิน มาชำระให้กับนายทุนได้ อีกทั้งยังพบว่าประชาชนได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการชำระหนี้จากผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกษตรกร ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร ครั้งที่ 3

เดินหน้าไม่หยุด "บิ๊กโจ๊ก" ลุยยึดทรัพย์นายทุนดอกโหดพันล้าน

ซึ่งตำรวจได้จัดให้มีการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง นายทุนเจ้าของที่ดินทำกิน188ราย และประชาชนชาวเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 256รายในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดยโสธร, จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดอำนาจเจริญ, จังหวัดอุบลราชธานี, มาทำความเข้าใจ และเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการดำเนินการสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยปรับลดค่าเช่าที่ดินทำกินลงมาในราคาที่เป็นธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรเบื้องต้นสามารถเจรจาได้มากถึง 2,535 ไร่คิดเป็นมูลค่าราคาที่ดิน 253.5 ล้านบาท

related