คสช. แจง ธนาธร ไม่ต้องกังวล ใครๆก็โดนขึ้น "ศาลทหาร" - "จาตุรนต์" พ้อน่าอนาถประเทศไทย

พันเอก วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา และต้องขึ้นศาลทหารว่า กฎหมายมีผลบังคับใช้กับคนทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่แยกแยะว่าคนนั้นจะเป็นผู้เห็นต่าง หรือจะเป็นผู้เห็นด้วย

ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ผู้เห็นต่างที่ต้องขึ้นศาลทหาร แต่คนที่ถูกนำคดีไปฟ้องศาลทหาร เป็นผู้ต้องหากระทำความผิดในช่วงปี 57-58 ซึ่งระบุอยู่ 4 ประเภทของกลุ่มงานความมั่นคง

ดังนั้นการที่นายธนาธร ไปขึ้นศาลทหารไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะทุกศาล จะพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย อยู่แล้ว

ด้าน แคทเธอรีน เกอร์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประเด็นประเทศไทยประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้ทางการไทยปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมโดยสงบ และให้งดเว้นจากการใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาอย่างมิชอบ เพื่อปิดปากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

นอกจากนี้ ทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กระตุ้นให้ทางการยกเลิกการดำเนินคดีอาญาใดๆ ต่อบุคคลเพียงเพราะการใช้สิทธิในการเรียกร้องอย่างสันติพร้อมกับเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการใช้ศาลทหารเพื่อไต่สวนคดีต่อพลเรือนไม่ว่ากรณีใดๆ

ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสงอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และ แกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า การตั้งข้อหาร้ายแรง 3 ข้อหาต่อนายธนาธร นั้นไม่ควร เพราะเป็นการตอกย้ำให้คนไทยและชาวโลกเห็นว่าการเลือกตั้งที่มีขึ้น และ ยังไม่เสร็จสิ้นนี้ เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ "เสรีและเป็นธรรม"

โดยปัญหาใหญ่ที่สุด คือการที่รัฐบาลยังสามารถใช้อำนาจทุกอย่าง ให้คุณให้ต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองได้โดยไม่มีข้อจำกัด และ คสช.ก็มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ รวมทั้งองค์กรอิสระ

รวมถึงยังมีการสกัดกั้นขัดขวางไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และ หากผู้มีอำนาจสามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จด้วยวิธีนี้ รัฐบาลที่ตั้งขึ้นจะขาดความชอบธรรม ส่วนกระบวนการยุติธรรมก็ถูกทำลายเสียหายยับเยินไปด้วย ถือว่า น่าอนาถนัก ประเทศไทย