รัวหมัดลอยฟ้าสะท้านโลก โดนปรับคนละ 500 อ้างเมาเหล้าขาวควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สั่งปรับคนละ 500 บาท 2หนุ่มรัวหมัดลอยฟ้าสะท้านโลก ต่อยธรรมดาโลกไม่จำ เจ้าตัวอ้างเมาเหล้าขาวจนมีอารมณ์ครึกครื้นและควบคุมตัวเองไม่อยู่
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายโพสต์ข้อความ “สังเวียนลอยฟ้าคืนลอยกระทงบ้านหนองแวง ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์” และข้อความ “เป็นมิติใหม่ของการตีกัน ตีกันหน้าเวทีมันเชย อัดกันบนลำโพงเลย เจ๋งโคตรๆ” โดยมีคลิปภาพวีดีโอเหตุการณ์ชายสองคน ที่มีเรื่องชกต่อยกัน โดยมีการปีนขึ้นบนนั่งร้านตั้งลำโพงข้างเวทีการแสดงงานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2562 ของอบต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งความสูงประมาณ 10 เมตร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อยธรรมดาโลกไม่จำ แลกหมัดบนนั่งร้านลำโพงเวทีงานลอยกระทง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังสถานที่จัดงานและเวทีการแสดงงานประเพณีลอยกระทง พบว่าเจ้าของเวทีได้ทำการรื้อเวทีกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว และจากการสอบถามนายนิรุจ ผู้ช่วยนักจัดการงานทั่วไป อบต.หนองแวง ระบุว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานประเพณีลอยกระทงของ อบต.หนองแวงจริง
โดยขณะนั้นอยู่ระหว่างการแสดงของวงดนตรีที่มาสมโภชในงาน อยู่ๆ นายอุทิศ ชาวบ้านหนองแวง ก็ปีนขึ้นไปเต้นบนนั่งร้านที่ตั้งลำโพงข้างเวที ซึ่งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่มาร่วมงานได้เรียกให้ลงมาเต้นข้างล่าง อย่าสร้างความวุ่นวายให้กับงานแต่นายนายอุทิศ ก็ไม่ฟัง กระทั่งนายขวัญเมือง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้ตะโกนเรียกอีก สุดท้ายนายขวัญเมืองก็ปีนตามขึ้นไป และชกต่อยกันตามที่เห็นในคลิป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาห้ามออกจากกัน
ด้าน พ.ต.ท.บุญจันทร์ สังข์ทอง รองผกก.(สอบสวน) สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอุทิศ และนายขวัญเมือง สองชายที่อยู่ในคลิปวีดีโอและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนที่จะแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาทสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และปรับคนละ 500 บาท พร้อมกับทำการว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้ก่อเหตุในลักษณะนี้อีก ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
พ.ต.ท.บุญจันทร์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ ทราบว่านายอุทิศได้ดื่มสุราหรือเหล้าขาวจนมีอาการเมาและเกิดอารมณ์ครึกครื้นจนควบคุมสติไม่อยู่ จึงได้ขึ้นไปเต้นรำบนลำโพงดังกล่าว ก่อนนายขวัญเมืองคู่กรณีจะขึ้นไปห้ามปรามและมีปากเสียงกัน กระทั่งเกิดการชกต่อยกันดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังทั้งสองสงบสติอารมณ์ และสามารถตกลงยอมความกันได้ จึงแยกย้ายกันกลับบ้านโดยไม่ติดใจเอาความกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ขณะที่นายอุทิศบอกว่าจะเลิกดื่มสุราไปตลอดชีวิต เนื่องจากเกิดความอับอายและรู้สึกละอายชาวบ้านที่ขึ้นไปก่อเหตุดังกล่าว
