เปิดธุรกิจ "ฉีดผิวขาว" ผ่านโซเชียล

ภาพรีวิวจากลูกค้าและผลิตภัณฑ์ฉีดผิวขาวกลูต้าไธโอนหลากหลายยี่ห้ออวดสรรพคุณฉีดเร่งให้ผิวขาวใส พร้อมช่องทางการติดต่อเชิญชวนให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เริ่มพบเห็นมากขึ้นในโลกโซเชียล โดยทางเพจเฟซบุ๊กที่ขายผลิตภัณฑ์ฉีดผิวขาวจะเน้นดึงดูดด้วยภาพรีวิวของลูกค้าและจัดส่งสินค้าสร้างความน่าเชื่อถือ

นอกจากนั้นยังพบข้อมูลที่น่าตกใจในธุรกิจฉีดผิวผ่านโซเชียลมีการเปิดคอร์สสอนฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ และ ร้อยไหม ทีมข่าวตรวจสอบพบมีการเปิดคอร์สรับสอนจริง เจ้าของเพจยืนยันเรียนจบคอร์สสามารถประกอบอาชีพได้ทันที ซึ่งการเปิดคอร์สสอนฉีดผิวและขายผลิตภัณฑ์ผ่านโซเชียลเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า

แต่ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยยาเหล่านี้นำออกมาขายทางโซเชียลได้อย่างไร ทีมข่าวจึงได้ติดต่อไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ข้อมูลว่า ปัจจุบันยังไม่มีการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนเป็นยา ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ปรากฏบนเพจเฟซบุ๊กจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนการเปิดสอนคอร์สฉีดผิวขาวในโซเชียลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้ให้คำตอบ

แต่จากการหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ในปี พ.ศ. 2559  ภก. ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. (ในขณะนั้น) เผยว่า การขายยาหรือเครื่องมือการแพทย์ตามกฎหมายต้องขออนุญาต หากทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจะเข้าข่ายความผิด และตามหลักกฎหมายเข็มฉีดยาถือเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง การนำสารใดๆ ฉีดเข้าร่างกายจะเข้าข่ายเรื่องของการประกอบโรคศิลปะ ผู้ทำต้องมีใบประกอบโรคศิลปะ ส่วนน้ำยาหรืยาที่ขายในเข็มต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ตามกฎพระราชบัญญัติ การพยาบาลมาตรา 27 (2)