อดีตปศุสัตว์สุโขทัยยิงตัวตายในห้องน้ำวัด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ และแพทย์เวรโรงพยาบาลสันกำแพง เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตภายใน วัดสันกำแพงหลวง(สันเหนือ) ต.สันกำแแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับแจ้งว่าชาวบ้านและพระลูกวัดว่าได้พบศพผผู้เสียชีวิตใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตายภายในห้องน้ำของทางวัด

ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นห้องน้ำหลังศาลาการเปรียญ พบศพผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย เสียชีวิตในสภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทราบชื่อต่อมาคือนายจำลอง อริยะจักร อายุ 63 ปี อดีตปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย ซึ่งตอนนี้เกษียณอายุราชการมาพักผ่อนที่บ้านเกิด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีเทาดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายเหนือขั้วหัวใจกระสุนเกือบทะลุแผ่นหลัง ใกล้กันภายในห้องน้ำพบปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกตกอยู่บริเวณริมประตูห้องน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนสาเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้นนั้น จากการพูดคัยกับทางญาติของผู้เสียชีวิตทราบว่า วันที่ 6 ก.พ.ผู้ตายได้หายแแกจากบ้านไปพร้อมกับรถจักรยาน และไม่มีใครทราบว่าผู้ตายนั้นปั่นจักรยานออกไปไปไหน และเมื่อเห็นว่านานผิดปกติ และโทรศัพท์ไปไม่มีคนรับสาย ทางญาติจึงได้ออกช่วยกันตามหาตัวของผู้ตายแต่ก็หาไม่พบจึงได้ตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง

จากนั้นตลอดทั้งวันที่ผ่านมาทางตำรวจรวมถึงญาติได้ช่วยกันออกตามหาอีกครั้ง กระทั่งช่วงประมาณหัวค่ำที่ผ่านมาญาติได้เดินเข้าไปตามหาผู้ตายที่วัดดังกล่าว จากนั้นพบจักรยานของผู้ตายจอดอยู่หน้าห้องน้ำ จึงได้ตะโดนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเปิดประตูห้องน้ำดูทุกห้อง ปรากฏว่าระหว่างนั้นพบร่างของ นายจำลอง ใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตายภายในห้องน้ำวัด

เช่นเดียวกับทาง พระนพพร ฉันฺทธมฺโม พระลูกวัดที่มาพบศพพร้อมกับญาติของผู้เสียชีวิตได้เล่าว่า เห็นจักรยานคันดังกล่าวมาจาดที่หน้าวัดได้ประมาณ 1-2 วันแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนฆ่าตัวตายภายในห้องน้ำ อีกทั้งก่อนจะมาพบศพตนยังใช้ห้องน้ำข้างห้องที่พบศพโกนผมอีกด้วย

อย่างไรก็ตามจากการชันสูตรของแพทย์เวรเบื้องต้นความว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง หลังจากที่มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยังภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบศพให้กับทางญาติของผู้เสียชีวิตดำเนินการตามประเพณีต่อไป ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้มีการเชิญตัวบุคคลใกล้ชิดมาสอบสวนกันอีกครั้ง