svasdssvasds

พ่อ "ดาวร้ายลิเก" รับศพลูกชายแล้วด้วยอารมณ์ความเศร้า

ธีรภัทร พงษ์สวัสดิ์ ฉายา "ลำวงย้อนยุค สายัณห์ ปัญญา" พ่อของ "เอ็ก" ลิเกดาวร้าย คณะลิเก เอกชัยราชัน เดินทางมารับศพลูกชายที่ สน.คู่ขนานลอยฟ้า หลังเสียชีวิตถูกรถชนตกจากบนถนนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี

 

จากเหตุการณ์เสียชีวิตของ นายศราวุธ หรือ "เอ็กซ์" พงษ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี นักแสดงดาวร้าย คณะลิเกชื่อดัง เอกชัยราชัน ที่จอดรถลงไปช่วยเหลือรถที่จอดเสียอยู่ริมทางก่อนโดนชนและตกลงไปเสียชีวิตด้านล่างของถนนบนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ขาออกมุ่งหน้าตลิ่งชัน แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ในที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ที่ สน.คู่ขนานลอยฟ้า นายธีรภัทร พงษ์สวัสดิ์ ฉายา "ลำวงย้อนยุค สายัณห์ ปัญญา" พ่อของ นายศราวุธ หรือ "เอ็กซ์" พงษ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นนักแสดงดาวร้าย คณะลิเกชื่อดัง เอกชัยราชัน เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายธีรภัทร กล่าว่า รู้เรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากลูกสาวคนเล็ก โทรมาบอกว่า เอ็กซ์ เสียชีวิตแล้วเพราะประสบอุบัติเหตุตกทางด่วน ตอนนั้นตนตกใจมากจึงรีบมาหาลูกที่ สน.คู่ขนานลอยฟ้า ก็ได้มาพบเจอกับคู่กรณีจึงสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว  โดยทราบมาว่าลูกชายเห็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รถของ ด.ต.ณรงค์ นิลสุวรรณ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่งานอารักขา 2 จอดเสียอยู่ข้างทาง จึงได้ลงไปช่วยโดยการเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือแล้วโบกรถเพื่อส่งสัญญาณว่าตอนนี้มีรถเสียอยู่  ในจังหวะนั้นก็มีรถ รถกระบะ มิตซูบิชิ สีขาว พุ่งมาชนท้ายอย่างแรง และ รถกระบะ สีเขียว ยี่ห้อนิสสัน ชนท้ายรถอีกครั้ง เป็นเหตุทำให้ ด.ต.ณรงค์  และลูกชายเสียชีวิต

นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ตนได้สอบถาม คู่กรณี นายอดิศักดิ์ คนขับรถกระบะสีขาว เขาก็ยังคงมีท่าทีงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ถามอะไรไป ก็ยังตอบไม่ได้ เขาบอกเพียงว่า ตอนขับรถมา มองไม่เห็นรถที่จอดอยู่ และไม่เห็นลูกชายของตน เพราะว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. มันยังมืดอยู่ และไฟตรงที่เกิดเหตุก็ดับ 1 ดวงด้วย จึงได้ชนกับรถของ ด.ต.ณรงค์ ด้วย

"ยอมรับว่าตนเสียใจมาก เพราะว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เพิ่งจะสูญเสียญาติสนิทของตัวเองไป และมาสูญเสียลูกชายต่อเลย มันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และตนทำใจไม่ได้เพราะมันกระทันหันมาก ปกติแล้วลูกชายเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว ชอบทำงานช่วยเหลือสังคม แต่ถึงอย่างนั้น ตนก็ดีใจ ที่ลูกชายเป็นคนชอบช่วยเหลือสังคม ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาก็ได้ช่วยเหลือคน ตนก็อยากเตือนทุกคน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่าถ้าหากจะช่วยเหลือใครควรจะดูความปลอดภัยของตัวเองด้วย ทั้งนี้ ตนขอให้ลูกชาย ไปอย่างสงบสุข" นายธีรภัทร กล่าว

ขณะที่ นายสุรัช แท่นทอง อายุ 49 ปี คนขับรถกระบะสีเขียว กล่าวว่า ตอนที่ต้นขับรถมาก็ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 60 - 70 กม. เพราะยางรถไม่ค่อยดี ประกอบกับฝนตกเล็กน้อยทำให้ไม่สามารถขับเร็วได้ และในระหว่างที่กำลังขับอยู่นั้น ตนก็ได้เห็นว่า รถกระบะสีขาว ขับชนกับรถกระบะสีดำที่จอดเสียอยู่อย่างแรง ทำให้รถกระบะสีดำปัดมา แล้วตนก็ขับรถชนท้ายกับรถกระบะสีดำอีกทีหนึ่ง เพราะตนมองไม่เห็นเลย

 

นายสุรัช กล่าวอีกว่า ตอนที่ขับมาก็ไม่เห็นว่ารถกระบะสีขาวจะเบรคเพราะว่าถ้าสมมุติเขาเบรค ไฟเบรคจะต้องติดแล้ว ตนก็จะเบรคทัน โดยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนก็รีบลงไปจากรถเพื่อดูความเสียหาย ก็ได้คุยกับคนขับรถกระบะสีขาว เขาก็บอกว่า ไม่เห็นรถสีดำที่จอดอยู่เลย ทำให้ชน แล้วตอนนั้น ตนก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงเดินลงมาจากรถแล้วก็พูดว่า  บอกแล้วว่าอย่าลงรถ แล้วจากนั้นเขาก็ เหมือนพยายามจะตามหาใครซักคนและไม่นาน ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ร้องตกใจเมื่อเห็น ด.ต.ณรงค์ เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้ารถคันสีดำ และมีผู้ชายคนหนึงตกลงไปอยู่ข้างล่างทางด่วน ตอนนั้นตนจึงทราบว่ามีผู้เสียชีวิต เพราะก่อนหน้านี้ ตนไม่เห็นมีใครอยู่บนถนนเลย

ด้าน พ.ต.ต.ศุภฤทธิ์ ยมตะโก สารวัตร(สอบสวน) งานสายตรวจ 4 บก.จร. สน.คู่ขนานลอยฟ้า กล่าวว่า จากการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของคู่กรณีทั้งคู่แล้ว ไม่พบปริมาณของแอลกอฮอล์ คาดว่า สาเหตุชนนั้น น่าจะมาจากไฟถนนที่มืดแล้วทำให้มองไม่เห็น เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับ นายอดิศักดิ์ 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

related