เกิดเหตุระทึกกลางดึก คนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ร้านสะดวกซื้อ กลางซอยสุขุมวิท 62 ย่านพระโขนง บังคับพนักงานร้านหยิบเงินให้ ได้เงินสดไปกว่า 5,000 บาท เหล้า 2 ขวด ก่อนหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี สุดท้ายไปไม่รอด
เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา สน.พระโขนง เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยสุขุมวิท 62 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ชั้นเดียว 3 คูหา เปิดเป็นร้านสะดวกซื้อ สาขาสุขุมวิท 62 ภายในร้านพบพนักงาน 3 คน ยืนอยู่ในอาการตกใจกลัว ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปสอบสวนถึงเกตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบสวนนายกฤติน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี พนักงานประจำร้าน ให้การว่า ตนเองได้ทำงานในผลัดดึกกับเพื่อนพนักงานที่เป็นผู้หญิง 2 คน ก่อนเหตุเกิดเวลาประมาณ 02.00 น. ตนเองยืนอยู่หน้าเครื่องเก็บเงิน ส่วนเพื่อนอีก 2 คน กำลังกินข้าวอยู่หลังร้าน
ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายเป็นผู้ชาย รูปร่างผอม ผิวคล้ำ สูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อคลุมสีเทาดำด้านหลังเป็นลายปีกนก สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน มาจอดบริเวณริมถนนหน้าร้าย ก่อนจะเดินเข้ามาใช้อาวุธมีดพกแบบพับได้ขู่บังคับให้ตนเองส่งเงินมา จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้ามาบริเวณเคาท์เตอร์เก็บเงิน ก่อนจะบังคับให้ตนเองหยิบส่งให้ ด้วยความตกใจกลัวคนเองเลยหยิบเงินที่เตรียมไว้สำหรับทอนลูกค้าที่บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติก จำนวน 5 หลอด บรรจุหลอดละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท และได้หยิบสุราต่างประเทศไป 1 ขวด และสุราไทย 1 ขวด รวมราคาประมาณ 2,500 บาท ก่อนจะวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องอยู่ ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางโรงเรียนพระโขนงวิทยาลัย
ด้าน ร้อยตำรวจเอกวินัย อินทรชิต รองสารวัตรปราบปรามตำรวจนครบาลพระโขนง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจกระจายกำลังไล่ล่าคนร้ายตามข้อมูลที่ผู้เสียหายให้การ ส่วนทางฝ่ายสืบสวนได้ทำการเก็บภาพวงจรปิดภายในร้านขณะเกิดเหตุไปตรวจสอบไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่คลองเตยหรือบางนา เพราะซอยที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นเส้นทางทะลุถึงกันได้หมดทั่งคลองเตยและบางนา
นอกจากนี้ตำรวจนครบาลพระโขนง ยังประสานตำรวจ 191 ร่วมติดตามผู้ก่อเหตุ จนในที่สุดตำรวจพบหมวกกันน็อคคล้ายหมวกกันน็อคที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ ตกอยู่ริมถนนหน้าชุมชนพัฒนา จึงได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน และร่วมกันตรวจหา จยย. บริเวณใกล้เคียง จนพบรถผู้ก่อเหตุจอด
พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้บังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ พร้อม พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก. สายตรวจ ,พตท. อัครพล โทยะ รอง ผกก. สายตรวจ ซึ่งร่วมกันสั่งการทางวิทยุสื่อสาร ได้สั่งการให้ร.ต.อ.ธวัชชัย พันธ์จิ๋ว ร้อยเวรงานสายตรวจ2 พร้อม ส.ต.อ.วสันต์ จู๋นางรอง ส.ต.อ.สุขุม วังคีรี เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 2 ร่วมกับกำลังสายตรวจจากกองกำกับการสายตรวจ 191 รวม 8 นาย และเจ้าหน้าที่ สน.พระโขนง เข้าปิดล้อมพื้นที่ พร้อมประสานพยานให้มาดูรถ จยย. ต้องสงสัย ปรากฎว่าเป็นรถที่ผู้ก่อเหตุจริงกำลังตำรวจทั้งหมดจึงวางแผนจับผู้ก่อเหตุซึ่งคาดว่าอาจจะหลบหนีอยู่ใกล้จุดพบรถจักรยานยนต์ จนในที่สุดก็สามารถพบผู้ต้องหาและจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด