‘ทำเนียบขาว’ ของสหรัฐฯ ชี้ว่า ทั่วโลกกำลังจับตามองว่า ‘อิหร่าน’ จะรับมือกับเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างไร หลังประชาชนชาวอิหร่านลุกฮือขึ้นมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
‘ทำเนียบขาว’ ของสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ว่า ทั่วโลกกำลังจับตามองว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านจะมีปฏิกิริยารับมือกับเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างไร โดยตอนนี้การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า สาเหตุที่ชาวอิหร่านลุกฮือขึ้นมา เพราะทนไม่ได้กับการทุจริตของรัฐบาล และการที่ประเทศให้เงินทุนสนับสนุนก่อการร้าย
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังประณามการจับกุมบรรดาผู้ประท้วงของเจ้าหน้าที่อิหร่านอีกด้วย และสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านเคารพในสิทธิของประชาชน
ด้าน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทุกประเทศออกมาให้การสนับสนุนประชาชนชาวอิหร่าน และข้อเรียกร้องของพวกเขาที่ต้องการสิทธิขั้นพื้นฐาน รวมถึงยุติการทุจริตของรัฐบาล
ทั้งนี้ ชาวอิหร่านออกมารวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ธ.ค. 2560) ที่ผ่านมา และตอนนี้การประท้วงได้ขยายไปในหลายเมืองใหญ่ของประเทศแล้ว แม้ว่าทางการอิหร่านจะประกาศเตือนเรื่องการจัดการชุมนุมก็ตาม
โดยมีรายงานว่า ชาวอิหร่านจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงในนครแรชต์ ทางตอนเหนือของประเทศ รวมถึงนครเคอร์มันชาห์ ทางตะวันตก ส่วนในเมืองอิสฟาฮาน, ฮามาดาน และอีกหลายที่มีจำนวนผู้ออกมาชุมนุมน้อยกว่า ในขณะที่ การชุมนุมในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศ มีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งถูกจับกุม
การเริ่มต้นการประท้วงเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ธ.ค. 2560) ที่ผ่านมา ภายในเมืองมัชฮัด ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งชาวอิหร่านไม่พอใจอย่างมากต่อการขึ้นราคาสินค้าของรัฐบาล และมี 52 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาตะโกนข้อความที่รุนแรงต่อ ‘ฮัสซัน โรฮานี’ ประธานาธิบดีอิหร่าน และ ‘อะยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี’ ผู้นำสูงสุด จากนั้นการประท้วงก็แพร่ขยายไปในหลายเมือง รวมทั้งขยายกลายเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในด้านอื่น ๆ อย่าง เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง และเรียกร้องให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง