เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำแห่งหนึ่งที่บราซิล หลังจากแก๊งคู่อริเข้าปะทะกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 57 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตมี 16 รายที่ถูกตัดศีรษะ
เกิดเหตุปะทะกันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง ระหว่างแก๊งค์คู่อริในเรือนจำรัฐปารา ประเทศบราซิล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 57 ราย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 7.00 น.เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.62) ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อสมาชิกของแก๊งค์หนึ่งที่อยู่ในเรือนจำอีกส่วน ได้บุกรุกเข้าไปยังพื้นที่อีกส่วนก่อนเกิดการปะทะกัน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตมี 16 ราย ที่ถูกตัดศีรษะ ส่วนนักโทษที่เหลือเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เพราะเรือนจำถูกจุดไฟเผา
ตามรายงานระบุว่า สมาชิกของแก๊งค์ โคมานโด คลาส เอ หรือ ซีซีเอ ได้จุดไฟเผาเรือนจำที่สมาชิกของแก๊งค์ โคมานโด เวอร์เมโล หรือ เรดคอมมานด์ ซึ่งเป็นแก๊งค์คู่อริถูกคุมขังไว้อยู่ และด้วยโครงสร้างของเรือนจำทำให้ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีนักโทษเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 นาย ที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว เพราะเป้าหมายของแก๊งค์คือทำร้ายคู่อริไม่ใช่มุ่งเป้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของเรือนจำระบุว่าไม่มีสัญญาณหรือคำเตือนใดๆ มาก่อนว่าจะเกิดเหตุจลาจลในครั้งนี้ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า แกนนำที่ก่อให้เกิดเหตุรุนแรงในครั้งนี้จะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำที่มีการคุมเข้มมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงในเรือนจำบราซิลเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ โดยบราซิล มีจำนวนผู้ถูกคุมขังมาก เป็นอันดับที่ 3 ของโลก มีนักโทษที่ถูกคุมขังประมาณ 700,000 คน และปัญหาเรือนจำแออัดเกินไปก็เป็นปัญหาใหญ่ของบราซิลด้วย ซึ่งการปะทะกันระหว่างแก๊งค์ในเรือนจำหรือการก่อจลาจลก็เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง