ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา ในประเทศอิหร่านเพิ่มขึ้นเป็น 12 รายแล้ว และติดเชื้อ 61 ราย ทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นอกประเทศจีน
ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา ในประเทศอิหร่านอยู่ที่ 12 ราย นับเป็นจำนวนมากที่สุดนอกประเทศจีน ขณะสำนักข่าว นิวยอร์กไทม์ส ระบุ ผู้ติดเชื้อที่ในประเทศ อิรัก อัฟกานิสถาน บาห์เรน คูเวต โอมาน เลบานอน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างย้อนรอยกลับไปมีความเชื่อมโยงกับประเทศอิหร่าน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย เพราะการหมุนเวียนของชาวมุสลิมแสวงบุญ และแรงงานหมุนเวียน ที่อาจเป็นพาหะเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไปด้วย
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่านส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการ กับประวัติการให้บริการสาธารณสุขที่ไม่มีความโปร่งใส ไม่มีคุณภาพ และผู้เชี่ยวชาญกังวลว่ามีแค่ไม่กี่ประเทศในตะวันออกกลางที่พร้อมรับมือโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
วันเสาร์ที่ผ่านมา อิรักได้ประกาศปิดชายแดนกับอิหร่าน ซึ่งปกติมีประชาชนหลายล้านคนข้ามชายแดนไปมาทุกๆ ปี ขณะที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุขของอิรัก เรียกร้องให้มีการปิดชายแดนทางทะเลและน่านฟ้ากับอิหร่านด้วย
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเชื่อใจรัฐบาล แม้มีประกาศให้ไม่เข้าโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น เพราะกังวลเรื่องการแพร่กระจายของโรค แต่คนจำนวนมากกลับมาที่ห้องฉุกเฉินเพื่อรับการตรวจเชื้อ ซึ่งโรงพยาบาลบางแห่งต้องตั้งเต๊นท์ชั่วคราวเพื่อจัดการกับคนที่มาใช้บริการมากเกินขีดการรองรับผู้ป่วย ขณะที่ราคาหน้ากากอนามัยในภูมิภาคสูงขึ้น ในประเทศอิหร่าน อิรัก เลบานอน และอัฟกานิสถาน บางแห่งถึง 30 เท่า