svasdssvasds

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สั่งปิดรร.-มหาวิทยาลัยทุกแห่ง16 มี.ค.สกัดCOVID-19

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สั่งปิดรร.-มหาวิทยาลัยทุกแห่ง16 มี.ค.สกัดCOVID-19

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สั่งปิดรร.-มหาวิทยาลัยทุกแห่ง หลัง 16 มี.ค. พร้อมสั่งห้ามผู้สูงอายุ 70 ปี ขึ้นไปออกนอกบ้าน แนะให้ทำงานที่บ้านเท่าที่ทำได้ เพื่อสกัดCOVID-19 ขอให้เชื่อมั่นทีมแพทย์จะสามารถหายารักษาและวัคซีนได้ในไม่กี่เดือน

ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCovid-19 ผู้นำหลายประเทศเริ่มแถลงมาตรการณ์รับรองเพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ

ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส covid-19 สะสม จำนวน 2,876 ราย (เพิ่มขึ้น 595 ราย) อาการหนัก 129 ราย และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 61 ราย (เพิ่มขึ้น 13 ราย)

โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง ได้แถลงอย่างเป็นทางการทางโทรทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 เป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งสำคัญที่สุดสำหรับฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา และได้ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทำงานอย่างหนักและขอบคุณชาวฝรั่งเศสที่รับมือกับวิกฤตครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสยังอยู่เพียงช่วงต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และโดยที่สุขภาพเป็นประเด็นสำคัญลำดับต้นของประเทศ ขณะที่ไวรัสยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการดังต่อไปนี้ เพื่อปกป้องกลุ่มเสี่ยง ได้แก่

- ขอให้บุคคลที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวและคนพิการ หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านและจำกัดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเท่าที่สามารถกระทำได้

- หลังการหารือกับพรรคการเมืองทุกพรรค รัฐบาลได้ตัดสินใจจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งบุคคลกลุ่มเสี่ยงก็สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้ โดยขอให้นายกเทศมนตรีเข้มงวดกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และขอให้ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

- ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 มี.ค.2563 ให้ปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งมหาวิทยาลัย โดยไม่มีกำหนด เนื่องจากเยาวชนเป็นผู้ที่แพร่เชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย

- ให้พนักงานทำงานจากบ้านเท่าที่สามารถกระทำได้

- ยังคงให้บริการระบบขนส่งสาธารณะตามปกติ แต่ขอให้ประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและจำกัดการเดินทางเฉพาะเท่าที่จำเป็น

- ให้มีการชุมนุมเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

- ให้เลื่อนการรักษาคนไข้ที่ไม่มีความเร่งด่วนทั้งหมด เพื่อให้มีกำลังบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น

- เร่งการวิจัยค้นคว้าหายารักษาและวัคซีนต้านไวรัส โดยเชื่อว่ายุโรปสามารถค้นพบยารักษาได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์/ไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

- ให้มีมาตรการดูแลผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยขยายระยะเวลาของ Trêve hivernale ไปอีกสองเดือน กล่าวคือ ระยะเวลาที่เจ้าของบ้านไม่สามารถไล่ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าได้ในช่วงฤดูหนาว (ปกติตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 มี.ค.)

- รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยทั้งหมดให้แก่พนักงานที่ถูกพักงานชั่วคราว (chômage partiel) เพื่อมิให้บริษัทต้องปลดพนักงาน โดยรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระด้วยเช่นกัน

- บริษัทสามารถเลื่อนการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมและภาษีของเดือน มี.ค.ได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลอธิบาย

- รัฐบาลจะเตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต โดยเห็นว่ามาตรการที่ ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศวันนี้ยังไม่เพียงพอ

- ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นประธานกลุ่ม G7 เพื่อแสดงจุดยืนว่า การแบ่งแยกมิใช่ทางแก้ปัญหาวิกฤตในครั้งนี้ แต่ทุกประเทศต้องร่วมมือกัน

- ขอให้ประชาชนแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยปฏิบัติตามคำแนะนำทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ หมั่นล้างมือ ไม่จับมือทักทาย และรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1 เมตร และขอให้แสดงความสามัคคีและมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

3. อนึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มี.ค. 2563 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศห้ามผู้ที่เดินทางมาจากยุโรป (ยกเว้นสหราชอาณาจักร) เข้าประเทศ ยกเว้นชาวอเมริกันและผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2563 (เวลา 05.00 น. ของวันที่ 14 มี.ค. 63 เวลาท้องถิ่นของ ฝรั่งเศส) ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันจำนวนมากเร่งเดินทางไปยังสนามบิน CDG กรุงปารีสเพื่อเดินทางออกจากฝรั่งเศสด้วยเกรงว่าอาจมีการยกเลิกเที่ยวบินไปสหรัฐฯ ได้

related