วิกฤติความอดอยาก

โครงการอาหารโลก (World Food program -WFP) สหประชาชาติ ระบุ โควิด 19 จะส่งผลให้เกิด วิกฤติความอดอยาก ครั้งใหญ่อย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ในเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีถึงเกือบ 40 ประเทศที่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งตอนนี้ประชาชนกว่า 1 ล้านคนในกว่า 10 ประเทศที่กำลังเข้าสู่ภาวะอดอยากแล้ว และจะมีประชาชนอีก 135 ล้านคนที่ถูกผลักเข้าสู่สถานการณ์เดียวกัน

ตัวเลข 135 ล้านคนนี้ กว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกา คือถึง 73 ล้านคน รองลงมาคือตะวันออกกลางและเอเชียที่ 43 ล้านคน

วิกฤติความอดอยาก ครั้งใหญ่นี้ เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่ต้องลดลง และความล่มสลายของราคาน้ำมัน โครงการอาหารโลกเรียกร้องให้ต้องเริ่มมาตรการลดผลกระทบอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายหนัก

มีความเป็นไปได้ว่า “คนจะเสียชีวิตจากผลกระทบทางเศรษฐกิจตากโควิด 19 มากกว่าเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเสียเอง”

รายงานวิกฤติอาหารประจำปี โดย โครงการอาหารโลก ระบุ 55 ประเทศที่เสี่ยงที่สุดที่จะเข้าสู่ภาวะอดอยาก เตือนว่าระบบบริการสุขภาพที่เปราะบางจะไม่สามารถรับมือกับผลกระทบจากไวรัสได้

“ประเทศเหล่านี้อาจต้องเผชิญกับการต้องเลือกระหว่างรักษาชีวิตหรือความเป็นอยู่ และสถานการ์แย่ที่สุด คือ ช่วยคนให้รอดจากไวรัสโคโรนาได้ แต่ต้องมาเสียชีวิตเพราะความหิวโหย”

ใน 55 ประเทศที่ระบุในรายงาน มี 10 ประเทศที่บ่งชี้ว่าเสี่ยงที่สุด เพราะกำลังอยู่ระหว่างวิกฤติอาหารตั้งแต่ปีที่แล้ว คือ เยเมน คองโก อัฟกานิสถาน เวเนซูเอลา เอธิโอเปีย เซาท์ซูดาน ซูดาน ซีเรีย ไนจีเรีย และเฮติ

รายงานฉบับดังกล่าว ยังรายงานว่า มีประชากรถึง 183 ล้านคนจาก 47 ประเทศที่จัดว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ที่เสี่ยงจะตกลงสู่ภาวะวิกฤติที่หนักขึ้น ถ้าต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นให้เกิดความเครียดมากขึ้นอีก