ภาษีสนามกอล์ฟ..ปัญหาใหม่ สร้างหนักใจให้ “ทรัมป์”?

วันที่ 16 ก.ค. 60 -- สนามกอล์ฟในเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา เป็นเพียง 1 ใน 12 สนามกอล์ฟ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเจ้าของ ซึ่งขณะนี้มีประเด็นว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องเสียภาษีเท่าไร?” เพราะสนามกอล์ฟของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ใช้รับรอง นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยหน่วยงานการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เพิ่งจะเปิดเผยว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้มีมูลค่ามากถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้าน ทนายความของประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาโต้แย้งและประเมินราคาน้อยกว่านั้นมาก คือ ประเมินไว้ที่ 18.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในปี 2557 ทนายความชี้แจงว่า มีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ศาสตราจารย์เดวิด เฮอร์ซิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ตอบคำถามที่ว่า ทำไมต้องประเมินราคาต่ำ ว่า “ถ้าคุณประเมินมูลค่าต่ำ คุณจะเสียภาษีน้อยกว่า” หากถามว่า ภาษีเหล่านี้จ่ายให้กับเมือง? ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายตอบคำถามว่า “ใช่ มันเป็นภาษีที่จ่ายให้กับรัฐฟลอริดา เมือง และเขตปาล์มบีช มันเป็นภาษีที่จ่ายต่อครั้งในแต่ละปี และต้องจ่ายทุกปี”

จากข้อมูลพบว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีการต่อสู้เกี่ยวกับการประเมินภาษีทั้ง 12 สนามกอล์ฟในสหรัฐฯ ที่เป็นเจ้าของ ยกเว้นที่ เบดมินสเตอร์ ในนิวเจอร์ซี ซึ่งจัดเก็บอยู่ในหมวดภาษีชาวไร่ เพราะมีการเลี้ยงแกะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทของประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีคดีฟ้องร้องกับชุมชนเล็ก ๆ คือ เมืองออสซินิง รัฐนิวยอร์ก ที่มีประชากร 40,000 คน เพื่อให้สนามกอล์ฟเวสเชสเตอร์ของตัวเองเสียภาษีน้อยลง น้ำตกขนาด 101 ฟุต 13 หลุม โดยบริษัทของประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า มันคือ สนามกอล์ฟที่แพงที่สุดเท่าที่เคยก่อสร้างมา ซึ่งในการชี้แจงทรัพย์สิน ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่า ที่แห่งนี้มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แต่ในปี 2558 ทนายความของประธานาธิบดีทรัมป์ให้ข้อมูลที่ต่างกันมาก โดยประเมินมูลค่าเพียง 1.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น โดยภาษีที่จ่ายต่างกันต่อปีระหว่างทั้ง 2 ตัวเลขมากถึง 425,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวว่า “ผมคิดว่า มันไม่ยุติธรรม ใครจะเป็นคนจ่ายส่วนต่างนี้ ซึ่งอาจจะเป็นคนในเมืองออสซินิง”

แต่ทนายของประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีปัญหาในพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองลอสแอนเจลิส เพราะสนามกอล์ฟอีกหนึ่งแห่งที่หรูหรา ในเอกสารภาษีแสดงให้เห็นว่า ปี 2550 สนามกอล์ฟแห่งนี้มีมูลค่า 67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี มูลค่าที่แสดงกลับลดลงเหลือเพียง 27.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มันลดลง 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเวลา 9 ปี? ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีให้ความเห็นว่า การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่ใช่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำแบบนี้คนเดียว เพราะคนรวยส่วนใหญ่มีทนายความเพื่อต่อสู้เรื่องนี้ แต่ตอนนี้ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้นำประเทศ สิ่งเหล่านี้จึงแตกต่างออกไป

เมื่อถามว่า คิดว่ามันจะเป็นปัญหาไหม? เพราะคนที่เราพูดถึง คือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ? ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายตอบว่า “ถ้าคุณคิดว่า ระบบมันถูกแทรกแซงได้ง่าย ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ถึงต้องจ่ายภาษี หรือกำหนดมูลค่าอสังหาริมทรัพย์แบบเหมาะสม ที่ทุกคนคิดว่า ยุติธรรมสำหรับพวกเขา”