เนื่องในวัน “อนุรักษ์มรดกไทย” เราจะขอย้อนกลับไปดูว่าในประเทศไทย มีอุทยาน, สถานที่หรือมรดกไทยใดบ้าง ที่ถูกจดทะเบียนขึ้นเป็น “มรดกโลก” จากองค์กรยูเนสโก(UNESCO) บ้าง
จากเหตุการณ์หลายๆอย่างในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น “คดีล่าเสือดำ” หรือปรากฎการณ์ “บุพเพสันนิวาส” ของท่านออกขุ่นและแม่การะเกด ล้วนแต่ปลุกกระแสการให้คนไทยตระหนัก และตื่นตัวต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ทรัพยากรธรรมชาติ หรือจะเรียกว่าทุกอย่างที่ผ่านตาเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันล้วนแล้วแต่ขึ้นชื่อว่าเป็น “มรดกไทย”
เนื่องในวัน “อนุรักษ์มรดกไทย” เราจะขอย้อนกลับไปดูว่าในประเทศไทย มีอุทยาน, สถานที่หรือมรดกไทยใดบ้าง ที่ถูกจดทะเบียนขึ้นเป็น “มรดกโลก” จากองค์กรยูเนสโก(UNESCO) บ้าง
[caption id="attachment_226474" align="aligncenter" width="1280"] อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย[/caption]
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 พร้อมกับรวมเอาอุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เข้ารวมเป็นหนึ่งในมรดกโลก ภายใต้ชื่อ “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของไทย และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมตลอดปี
[caption id="attachment_226477" align="aligncenter" width="1280"] อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย[/caption]
ภายในยังคงเหลือร่องรอยของพระราชวังและวัด มากถึง 26 แห่งด้วยกัน รวมถึงโบราณสถานที่สำคัญอีกถึง 30 แห่ง ซึ่งวัดที่ใหญ่ที่สุดภายในอุทยานประวัติศาสตร์นี้ก็คือ “วัดมหาธาตุ” โบราณวัตถุจำนวน 215 แห่ง และถูกตรวจพบทั้งหมด 204 แห่ง ซึ่งได้ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งในมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้ว
[caption id="attachment_226475" align="aligncenter" width="1280"] อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย[/caption]
[caption id="attachment_226478" align="aligncenter" width="1280"] อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร[/caption]
-เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น.
-อัตราค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวชาวไทย 10 บาท นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 40 บาท และเช่ารถจักรยาน คันละ 20 บาท
ขอบคุณภาพจาก Facebook/อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
นับเป็นช่วงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาฮ็อตติดลมบนมากที่สุดช่วงหนึ่งจากกระแสละครดัง ที่เคยเป็นเมืองหลวงเก่า และมีความรุ่งเรืองมาอย่างยาวนานถึง 417 ปี ซึ่งถึงแม้ว่าเมืองเก่าอยุธยาแห่งนี้จะถูกทำลายลงจากศึกสงคราม แต่ก็ยังคงเหลือซากของโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรือง และสถาปัตยกรรมของยุคสมัยนั้น
สำหรับโบราณสถานที่สำคัญภายในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยานี้ ได้แก่ พระราชวังโบราณ ที่เป็นพระราชวังหลวง ซึ่งถือเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ภายในสมัยกรุงศรีอยุธยา, วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดอารามหลวงที่อยู่ภายในพระราชวังโบราณ ที่เป็นวัดต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดารามในปัจจุบัน และวัดมหาธาตุ ที่เป็นวัดสำคัญอีกหนึ่งวัด เนื่องจากเป็นวัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุที่ตั้งอยู่ใจกลางของพระนคร แต่ก็ได้ถูกทำลายลง เมื่อครั้งที่เสียกรุงครั้งที่ 2 ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยานี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2534 นั้นเอง
-เวลาเปิด-ปิด: 08.00 - 18.00 น.
-อัตราค่าเข้าชม: นักท่องเที่ยวชาวไทย 10 บาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 40 บาท
ขอบคุณภาพจาก Facebook/อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
ถ้าใครอยากจะทราบถึงการดำรงชีวิตในยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว แนะนำให้มาที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ตั้งอยู่ในอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี เพราะสถานที่แห่งนี้คือแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งที่พบร่องรอยของการทำเกษตร, การทำสำริด, เหล็ก, รวมไปถึงการทำเกษตรกรรม โดยร่องรอยเหล่านี้ได้ทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิต และมีการสืบทอดทางวัฒนธรรมตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
วัฒนธรรมบ้านเชียง ยังได้ครอบคลุมไปถึงแหล่งโบราณคดีอื่นๆ ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกกว่าร้อยแห่ง ทำให้แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้ถูกยอมรับให้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกภายในปี พ.ศ. 2535 จากองค์การยูเนสโก เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษา และเรียนรู้ของคนรุ่นหลังสืบต่อไป
-เวลาเปิด-ปิด: 09.00 - 16.00 น.
-อัตราค่าเข้าชม: นักท่องเที่ยวคนละ 5 บาท
ขอบคุณภาพจาก http://museum.socanth.tu.ac.th/
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เกิดเหตุคดีดัง สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านี้ ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของไทย และของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี พ.ศ. 2534 ซึ่งจะรวมพื้นที่ทั้งหมด 4 อำเภอ ของ 4 จังหวัด นั่นก็คือ กาญจนบุรี ตาก นครสวรรค์ และอุทัยธานี ประกอบไปด้วยผืนป่า 3 แห่ง นั่นก็คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้านตะวันออก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีอาณาเขตรวมกันเป็นจำนวน 4,000,000 กว่าไร่ด้วยกัน ซึ่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านี้ได้ถือว่าเป็นแหล่งระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และรักษาเอาไว้
โดยปกติแล้วเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านี้ไม่ได้มีการเปิดให้ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวเข้าไปเหมือนกับที่อื่นๆ แต่จะมีจุดที่ทางการอนุญาตให้เข้าไปศึกษาแหล่งเส้นทางธรรมชาติแบบไม่ค้างคืนได้ถึง 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ บริเวณสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ และ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี
ขอบคุณภาพจาก Facebook/เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก
นับกว่าเป็นผืนป่าแห่งที่ 2 ของไทย ที่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2548 นับเป็นอีกที่ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ประกอบไปด้วยป่าหลายชนิด มีทั้งป่าดิบชื้น, ป่าดงดิบ, ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า พร้อมกับมีการตรวจพบว่า มีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในผืนป่าดงพญาเย็นนี้ ที่จะมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ไปจากโลก จึงทำให้ผืนป่าแห่งนี้ควรค่าแก่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพื่อที่จะได้มีการอนุรักษ์ และรักษาผืนป่าเอาไว้ไม่ให้ถูกทำลายไปมากกว่านี้
ขอบคุณภาพจาก Facebook/สัตว์ป่า ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ภูเขียว ห้วยขาแข้ง