เช็กอิน : ญี่ปุ่น เที่ยวนาโกยา ตามหาเมนูเด็ด เนื้อมัตสึซากะ - ทะเลสดๆ Ama Hut [คลิป]

เสน่ห์ของนาโกยา และ เมืองรอบๆ ที่ห่างกันราว 1 ชม.ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง คือ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีประสบการณ์แปลกใหม่ให้เราได้สัมผัส ไปค่ะ เริ่มจากลงเครื่องที่สนามบินชูบุ เซนแทร์ ของนาโกยา การบินไทยนำเรามาถึงเช้าตรู่ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ลุยเลย

เริ่มจากเอาใจสายเนื้อ พาไปชิมบุฟเฟต์ เนื้อมัตสึซากะ ในเมืองมัตซึสากะ ห่างจากนาโกยาราวๆ 1 ชั่วโมงเศษๆ หลับแป๊บเดียวก็ถึง  ถึงร้านแล้วมุ่งไปชมตู้แช่เนื้อก่อนเลยจ้า มีเนื้อนานาชนิด แยกประเภทไว้เรียบร้อยทั้งเนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู มาพร้อม สำหรับเนื้อวัว “มัตสึซากะ” ที่แสนโด่งดังพระเอกของร้าน มีทั้งเนื้อสไลด์บางๆ เนื้อที่มีชั้นไขมันแทรกอยู่ มีให้เลือกทั้งแบบมันมากมันน้อย เนื้อหมูหั่นมาเป็นชิ้นโตๆ เนื้อหมูรมควันคล้ายๆ ไส้กรอกแผ่นโตหั่นชิ้นพอคำ ผักสดๆ เรียงรายทั้งผักสลัด ฟักทอง หอมใหญ่ พริกเขียวเม็ดโต เลือกได้ตามอัธยาศัยเลยจ้ะ

[gallery columns="1" link="file" size="full" ids="341053,341054"]

หยิบตัก ตามต้องการก็เริ่มหย่อนเนื้อลงย่างไฟร้อนๆ ได้เลย ใครชอบแบบมีเดียม กลับ 2-3 ครั้งก็พร้อมทานแล้ว ที่จริงเนื้อที่นี่ผ่านการหมักเครื่องเทศอ่อนๆ มาแล้ว น้ำจิ้มไม่เหมือนบ้านเราแน่นอน มีทั้งน้ำมะนาว ซอสต่างๆ ให้เลือก แต่ถ้าไม่จิ้มเลยก็โอค่ะ

หลังมื้ออาหารไม่ควรพลาดของหวาน อย่าง ซอฟท์ครีม หรือไอศกรีม แนะนำรสชาเขียวเลยค่ะ ได้รสชาติของมัทฉะแท้ๆ กลมกล่อมไม่หวานมาก คือดีย์  ใครติดใจเมนูเนื้อมัตสึซากะแท้ๆ ซื้อไปทานที่บ้านได้ค่ะ ที่นี่มีบริหารห่ออย่างดี แถมมีเมนูเนื้อแปรรูปให้เลือกแบบละลานตา

[gallery size="full" columns="1" ids="341055,341056,341057"]

พักเบรกจากมื้อหนัก พักสายตาแป๊บ เดินทางไปไหว้ขอพรสิ่งศักสิทธิ์ ศาลเจ้าหลวงแห่งอิเสะ ในจังหวัดมิเอะ ห่างจากมัตสึซากะไม่มากนัก ขอพลังจากเทพแห่งดวงอาทิตย์จงสถิตอยู่กับเรา แถมท้ายด้วยการซื้อเครื่องรางไว้พกติดตัว ให้โชคดีๆ

ไม่นานมื้อเย็นก็เตรียมเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่มื้อนี้พิเศษมาก ตรงที่ไปทานปิ้งย่างอาหารทะเลสดๆ โดยฝีมือของนักดำน้ำหญิง ที่ Ama Hut  เหล่ากุ้ง หอย ปู ปลา มีทั้ง กุ้งล็อบสเตอร์ ปลาหมึกสดๆ หอยนานาชนิด ปลาทูสดขนาดกำลังดี เสิร์ฟมาในถาดใบใหญ่ รอหย่อนลงเตาถ่านร้อนๆ โดยฝีมือของอะม่า หรือนักดำน้ำหญิงนั่นเอง เธอมาพร้อมเครื่องแบบชุดขาว โพกผมโชว์แค่หน้าขาวๆ  กุ้งล็อบสเตอร์ ที่นี่พิเศษตรงที่หาได้ที่นี่ที่เดียว มีชื่อว่า “กุ้งอิเสะ” จากท้องทะเลในจ.มิเอะ อร่อยไหมเดี๋ยวบอกนะ

อะม่า เริ่มหย่อนหอยเปลือกหนาไปก่อน รอไม่นานก็เสิร์ฟมาในจานแจกทุกคนรอบๆ โต๊ะ คนละ 2 ตัว ไม่ขาดไม่เกิน ตามด้วยปลาหมึกลงย่าง พลิกไปพลิกมาจนสุกได้ที่ เนื้อเหนียวนุ่มหนึบ ใช้กรรไกร ตัดแบบพอดีคำ เสิร์ฟต่อเลยจ้า

[gallery columns="1" link="file" size="full" ids="340754,340755,340756"]

เนื้อของอาหารทะเลสดๆ หวานตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าทานสไตล์คนไทยก็จะแอบพกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปจิ้มเพิ่มความแซ่บ อร่อยน้ำตาไหล ยิ่งทานพร้อมข้าวอบสาหร่ายร้อนๆ ซุปมิโสะ โอ้โห อร่อยลืม ชิมนู่น ชิมนี่ จนถึงมาไฮไลท์ ที่จ้องตาไม่กระพริบตั้งแต่หย่อนลงเตา ด้วยความที่กุ้งอิเสะ ยังไม่ตาย หนวดกุ้งตั้งชันในขณะโดนไฟ จริงๆ แอบสงสาร แต่อยากลิ้มลองรสชาติมากกกว่า แหะ แหะ รอจนสุก อะม่า ก็นำกุ้งขึ้นมา ผ่าครึ่งพร้อมเสิร์ฟ ใส่จานให้คนละ 1 ตัว สนนราคาไม่ถูกเลยนะจ๊ะตัวนึงราวๆ 5-7 พันเยน 1,500-2,100 บาท อู้หูววแพงจุง แต่ถือว่าคุ้มค่ามาก แต่ละคำต้องบอกว่า ค่อยๆ ลิ้มรสความหวานของเนื้อกุ้งแบบช้าๆ เพื่อจดจำความอร่อยให้ได้นานๆ  จบเมนูกุ้ง เตายังไม่ปิดเพราะมีปลาอีกหลายชนิดที่กำลังย่างพร้อมเสิร์ฟ อย่างปลาทูตัวไม่โตนัก แต่เนื้อแน่นและมีความมัน อร่อยอะ สำหรับสนนราคาบุฟเฟต์เฉลี่ยหัวละ 3,500 เยน หรือราวๆ 1,050 บาท ไม่รวมกุ้งนะจ๊ะ แถมใครจะมาต้องนัดล่วงหน้าเพราะอะม่า ฮัท ไม่ได้เปิดทุกวัน

[gallery columns="2" size="full" link="file" ids="340757,340758,340759,340760,340761,340762,340763,340764"]

ในระหว่างที่อะม่า ย่างอาหารเสิร์ฟให้เรา หน้าตาเธอก็ยิ้มแย้มแจ่มใส คนในโต๊ะอาหารที่ล้อมวงรับประทาน ก็สนอกสนใจอาชีพสาวนักดำน้ำของพวกเธอ ไถ่ถามไปได้ความว่า พวกเธอมีหน้าที่งมหอย ทั้งหอยกาบ หอยเม่น หอยเป๋าฮื้อ ดำกันแบบมีหน้ากากดำน้ำเพียงชิ้นเดียว ไม่มีถังออกซิเจน ช่วยชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น อาชีพนี้สืบทอดกันมานับร้อยปีแล้ว อะม่า ที่อายุมากที่สุด 80 กว่าปี เพราะคนรุ่นใหม่ไม่สนใจอาชีพนี้นัก

อะม่า เล่าให้ฟังว่า กว่าจะมีวันนี้พวกเธอต้องฝึกฝนดำน้ำจนชำนาญ อย่างน้อย 3 เดือน ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมไม่มีผู้ชายยึดอาชีพนี้ อะม่าตอบแบบขำๆ ว่า อาจเป็นเพราะผู้หญิงอดทนและแข็งแรงกว่า โดยให้ดูจากร่างอวบๆ ของเธอนั่นเอง

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้ๆ นาโกยา เมืองที่สายการบินในบ้านเราเริ่มไปเปิดเส้นทางบินและทำการตลาดกันมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวของท้องถิ่นเองก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยส่งเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำแนะนำ และ ต้อนรับดุจญาติมิตร แทบจะทุกที่ที่เราไป มีโอกาสลองแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนดูค่ะ