svasdssvasds

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำที่สะเทือนโลกที่สุดในประวัติศาสตร์คงหนีไม่พ้น เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ หรือเจเอฟเค ที่เป็นคดีประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) เหตุการณ์นี้ผ่านมา 54 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยเอกสารของคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์  ซึ่งตามกฎระเบียบของสภาคองเกรส เอกสารคดีลอบสังหารทุกชนิดจะต้องเปิดเผยเมื่อหมดอายุความครบ 25 ปี แต่ให้สิทธิประธานาธิบดีในการใช้อำนาจยับยั้งได้ หากเห็นว่าเป็นภัยต่อการข่าวกรอง ราชการลับ ปฏิบัติการทางทหาร การบังคับใช้กฎหมาย หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

[caption id="attachment_126206" align="aligncenter" width="768"] สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์ นายจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา[/caption]

แต่ล่าสุด ถึงเวลาสิ้นสุดการรอคอยสำหรับบรรดาผู้ที่ยังค้างคาใจกับคดีสังหารผู้นำสะเทือนโลก เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯเขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “จะไม่ขัดขวางการเปิดข้อมูลสอบสวนคดีลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้”

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

ด้วยเหตุนี้ หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯจึงเตรียมเผยแพร่เอกสารแฟ้มสอบสวนคดีลอบสังหารประธานาธิบดีเจเอฟเค อันประกอบด้วยเอกสาร 3,000 หน้าที่ไม่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณชนมาก่อน และเอกสารอีกกว่า 30,000 หน้าที่เคยเผยแพร่มาแล้วในฉบับย่อ แต่ครั้งนี้จะนำมาเผยแพร่ในฉบับเต็ม

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

หลังโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความจำนงให้เปิดเผยเอกสารแฟ้มสอบสวนคดี ปฏิกิริยาตอบรับชองชาวอเมริกันส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก เช่น นายแลร์รี่ แซเบโท ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ซึ่งเขาเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับคดีลอบสังหารประวัติศาสตร์นี้  นายแลร์รี่กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว รัฐบาลไม่ควรปกปิดเอกสารสอบสวนคดีอีกต่อไป

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

ขณะที่นายโอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับชื่อดัง ที่เคยสร้างภาพยนตร์เรื่อง เจเอฟเค เป็นภาพยนตร์ในเชิงตั้งคำถามว่า “อาจเป็นฝีมือกองทัพสหรัฐฯที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร” โดยนายโอลิเวอร์ สโตน ถึงกับแสดงความดีใจด้วยข้อความที่ว่า “นี่คือชัยชนะ” เพราะจะได้รู้ข้อมูลที่แท้จริงและครบถ้วนเสียที

สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์

ด้านนักวิชาการที่ศึกษาคดีนี้เชื่อว่า เอกสารสอบสวนคดีจะเฉลยให้ได้รู้ว่า นายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ มือสังหารนั้นเดินทางไปเม็กซิโกก่อนลงมือ และระหว่างที่ไปเม็กซิโกนั้นได้เข้าไปยังสถานทูตสหภาพโซเวียตและสถานทูตคิวบาจริงหรือไม่?  ซึ่ง CSI (Crime Scene Investigation) หน่วนพิสูจน์หลักฐานเชื่อว่า คนร้ายเกี่ยวข้องกับคิวบา เพราะคนร้ายได้แรงบันดาลใจที่จะสังหารประธานาธิบดี หลังอ่านบทความของ ฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบาในขณะนั้น ซึ่งพูดเอาไว้ว่า “ผู้นำสหรัฐจะตกอยู่ในอันตรายแน่ หากเกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะกำจัดผู้นำคิวบา”

[caption id="attachment_126203" align="aligncenter" width="725"] สิ้นสุดการรอคอยกับปริศนาคดีประวัติศาสตร์“เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้” เมื่อทรัมป์อนุญาตให้เปิดเผยเอกสารสอบสวนคดีแบบครบถ้วนสมบูรณ์ นายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ มือสังหาร[/caption]

ทั้งนี้ เหตุลอบสังหารนายจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ เดลลีย์พลาซ่า เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ซึ่งประธานาธิบดีเคนเนดี้ถูกยิงถึงแก่ชีวิต ระหว่างที่นั่งขบวนรถประธานาธิบดีไปกับภรรยาของเขา นางแจ็กเกอลีน เคนเนดี้ โอนาสซิ เพื่อหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า.

related