svasdssvasds

17พ.ย. วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก ไทยส่งเสริมคุณแม่ฉันทนา เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

17พ.ย. วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก ไทยส่งเสริมคุณแม่ฉันทนา เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กล่าวถึง วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก (World prematurity day: 17 Nov 2017) ว่า ตามแนวคิดองค์การอนามัยโลก 2551 (The Partnership for Maternal, Newborn and Child Health) เพื่อลดอุบัติการณ์ของภาวะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ตลอดมา และจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากมารดาที่คลอดบุตรก่อนกำหนด พบว่า ประมาณร้อยละ 60-70 ของหญิงอายุในช่วง 20-34 ปี ยังไม่มีความรู้เรื่องการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด  เป็นเหตุให้เข้ามารับการรักษาล่าช้า แพทย์จึงไม่สามารถยับยั้งภาวะเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดได้สำเร็จ  ในจำนวนนั้นส่วนหนึ่งเป็นผู้ทำงานในสถานประกอบการ  ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้ พนักงานส่วนหนึ่งขาดการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นกับตนเองและทารกในครรภ์  จึงจัดทำ “โครงการพัฒนาสถานประกอบการต้นแบบด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง การส่งเสริมสุขภาพพนักงานและครอบครัว เพื่อป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนด” ขึ้น ในรูปแบบพนักงานช่วยเหลือพนักงานที่ตั้งครรภ์ในรูปแบบจิตอาสา หรือ เพื่อนช่วยเพื่อน  โดยโครงการได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2558

17พ.ย. วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก ไทยส่งเสริมคุณแม่ฉันทนา เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

ซึ่งสัมฤทธิผลที่เกิดขึ้น หากพนักงานขององค์กร มีความเอื้ออาทร มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน จะมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ มีความสุขในการทำงาน พนักงานที่มีความสามารถมีความรักภักดีต่อองค์กร ก็จะทำงานกับองค์กรในระยะยาว เป็นการช่วยลดต้นทุน ลดการเสียโอกาสในการทำธุรกิจ สร้างความมั่นคง ยั่งยืนให้กับกิจการ และหากองค์กรใดสนใจที่จะร่วมในโครงการนี้ ซึ่งการดำเนินงานไม่ยุ่งยาก สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการได้ที่ สำนักงานโครงการเครือข่ายมารดาและทารก ในพระราชูปถัมภ์ฯ email address: [email protected]  เพื่อคุณภาพชีวิตของมารดาและทารกแรกเกิด ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่จะสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติในอนาคตต่อไป

 

ขอบคุณภาพ จาก MedThai

ขอบคุณภาพ จาก ฐานเศรษฐกิจ

related