ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 14 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักของนาย ณภัทร ธงศรีเจริญ อายุ 43 ปี หลังได้แจ้งว่ามีขโมยขึ้นบ้าน ซึ่งนาย ณภัทรเล่าให้ฟังว่า ครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 ครั้งแรก โดนงัดไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.59 โดยทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปขณะนั้น มีพระเครื่องเก่ากว่า 300 องค์ อาทิ พระนางพญาเลี่ยมทองคำ ,เหรียญหลวงปู่ทวด สลับทับทิม, พระสมเด็จคะแนนเนื้อว่านเลี่ยมทองคำ,พระพุทธชินราชเลี่ยมทองคำล้อมเพชร พร้อมทรัพย์สินกว่า 56 รายการ ประมาณ 1,500 ชิ้น อาทิ เครื่องประดับ เพชร ทองนาฬิกา Rolex นาฬิกา Rado ทองคำขาวประดับเพชร และอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท
จึงได้ไปแจ้งความไว้ โดยมี ร.ต.อ.หญิง รสิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน เป็นเจ้าของคดี แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาลงโทษได้ ซึ่งครั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ นาจอมเทียนไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี จึงไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ สภ.ชลบุรี และ ตำรวจภูธรภาคสอง แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่อย่างใด
จนมาในวันที่ 8 ธ.ค. 60 เวลาประมาณ 09.20 น. ก็ถูกคนร้ายขึ้นบ้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กล้องวงจรปิดโดยรอบบ้านกว่า10ตัว สามารถจับภาพได้ชัดเจน คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-45 ปี สวมไอ้โม่งสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีเขียว สวมกางเกงยีนส์ขายาวและรองเท้าผ้าใบสีแดง ซึ่งคนร้ายได้วางยาเบื่อสุนัขเฝ้าบ้านตายไป 1 ตัว ก่อนจะพยายามงัดเหล็กดัดแต่ไม่สำเร็จ จนต้องปืนหลังคาบ้านโรยตัวลงมาจากฝ้า ก่อนเปิดไอ้โม่งจนเห็นหน้าชัดเจน กวาดทรัพย์สินทั้ง ทีวีจอแบน ขนาด 42 นิ้ว อาวุธปืนลูกซอง กล้องถ่ายรูป พระบูชาหลวงพ่อทองอยู่ และพระเครื่องประมาณ 100 องค์ รวมมูลค่ากว่า 112,000 บาท ก่อนหลบหนีไปทางป่ามันข้างบ้าน จึงได้เข้าแจ้งความ กับ ร.ต.อ.อุดม ศรีมาตย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน ไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝงไปแล้ว
นายณภัทร กล่าวว่า ตนน้อยใจมาก ครั้งแรก โดนโจรขึ้นบ้านได้ทรัพย์สินไปมูลค่าหลายล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ความคืบหน้าทางคดีก็ไม่มี ไปร้องเรียนถึง ตํารวจภูธรภาค 2 แต่คดีก็เงียบไปจนมาครั้งนี้ก็มาโดนเป็นรอบที่ 2 หลังจากครั้งแรกโดนไปก็ลงทุนนับแสนบาทติดหน้าต่าง ประตูเหล็กดัด กล้องวงจรปิดรอบบ้าน เลี้ยงสุนัขเฝ้าบ้าน ก็มาถูกวางยาเบื่อ ก่อนจะโรยตัวลงจากฝ้า เข้าไปกวาดทรัพย์สินหลบหนีไป ซึ่งหากใครสามารถให้เบาะแสจนจับกุมคนร้ายได้ จะมีรางวัลนำจับให้อย่างงาม เพราะจากพฤติกรรมคนร้ายที่รู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เลยทำให้คาดว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยมาขโมยของในครั้งแรก แล้วย้อนกลับมาขโมยของอีกครั้ง จึงขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพื่อคืนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงจะได้ตามทรัพย์สินส่วนที่เหลือคืนได้บ้าง