ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 15 ธ.ค.60 จากกรณีที่นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือท็อป ฮาวดี้ ไลฟ์สด ขณะก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านของนายหัส โพธิ์เงิน เพื่อทวงเงินจากลูกชายของนายหัส พร้อมใช้คำพูดข่มขู่ว่ายืมเงินแล้วไม่คืนก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวจนสามารถจับกุมได้พร้อมกับนายคมสัน พรมสุรินทร์ คนถ่ายคลิปในวันก่อเหตุ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายวรายุทธ โพธิ์เงิน ลูกชายของนายหัสที่นายอาทิตย์กล่าวอ้างว่าเป็นลูกหนี้ ยอมรับว่าเป็นหนี้แม่ของนายอาทิตย์จริงจำนวน 10,000 บาท แต่ไม่ได้เป็นการกู้ยืม โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินที่แม่ของนายอาทิตย์นำมาจ่ายค่าประกันตัวให้กับนายอาทิตย์และตัวเอง ที่ถูกจับกุมในข้อหาเสพสารเสพติด เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองได้ทำสัญญาต่อหน้าตำรวจไว้ว่าเป็นหนี้แม่นายอาทิตย์ 10,000 บาทโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งในสัญญาระบุว่าให้ชำระคืนภายในวันที่ 10 ธ.ค. แต่ยังไม่ถึงกำหนดวัน นายอาทิตย์ก็มาเผาบ้านข่มขู่ อีกทั้งก่อนหน้านี้แม่ของนายอาทิตย์ก็ให้ตนไปกรีดยางเพื่อใช้หนี้แต่ทำได้เพียง 6 วันก็บอกให้หยุด จึงไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นเพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ ยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยว และ เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนไม่ได้บอกครอบครัว แต่ไม่คิดเรื่องจะรุนแรงบานปลายเช่นนี้
นายวรายุทธ ยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นหนี้ครอบครัวนายอาทิตย์ถึง 100,000 บาทและไม่เคยไปเอาเงินมาสร้างบ้านตามที่นายอาทิตย์กล่าวอ้างเลย และที่ออกมาให้สัมภาษณ์เพราะอยากให้สังคมเข้าใจ แต่ยอมรับว่ากลัวจะถูกนายอาทิตย์ กลับมาล้างแค้นหรือทำร้ายครอบครัว เพราะนายอาทิตย์เป็นคนชอบใช้ความรุนแรง แต่ก็คิดว่าเพื่อนกันจริงไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ พร้อมรับปากกับพ่อว่า จะพยายามทำงานหาเงินมาใช้หนี้จำนวน 10,000 บาท เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก
ทางด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก. สภ.แคนดง ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันนี้ โดยที่ต้องเลื่อนส่งฝากขังเนื่องจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเสร็จไม่ทัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด