ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งหาตัวผู้ชุมนุมอีก 66 คน ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อทำการรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายเรียกเพิ่ม
วันนี้( 2 ก.พ.) พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ติดตามคดีกรณีกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยที่ชุมนุมเรียกร้องให้ คสช. จัดการเลือกตั้ง ที่บริเวณสกายวอล์คแยกปทุมวัน หอศิลป์ กทม. เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีการสอบสวนว่าเรียบร้อยถูกต้อง ตรงไปตรงมาหรือไม่
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยที่ถูกออกหมายเรียกเดินทางมายังหน้า สน.ปทุมวัน จำนวน 32 คน แล้วขอเลื่อนไม่พบพนักงานสอบสวน ว่าไม่มีการเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวแต่อย่างใด แต่ได้สั่งการให้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้ว โดยกำหนดให้มาพบภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกหมายเรียก พร้อมทั้งสั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งหาตัวผู้ชุมนุมอีก 66 คน ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อทำการรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายเรียกเพิ่ม
สำหรับกรณีที่ผู้ชุมเรียกเรียกร้องว่าเป็นการออกหมายเรียกกระชั้นชิดเกินไปนั้น ตนเองมองว่าไม่ได้เป็นเร่งรัดแต่เป็นตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ชุมนุมไปฝากขังหลังจากรับทราบข้อกล่าวหา ตนเองใช้ดุลพินิจในการสั่งการเอง
ส่วนที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าถูกผลักดันให้เข้าไปอยู่ในรัศมี 150 เมตร เขตพระราชฐานได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยการเขตปทุมวันว่ามีการตรวจสอบแล้วว่าอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจริง
ส่วนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะออกมาเคลื่อนไหวที่ถนนราชดำเนินอีกครั้ง ต้องมีการขออนุญาตสน.ในพื้นที่ และ ฝากความมั่นคง หากได้รับอนุญาตก็สามารถชุมนุมได้ แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ได้ออกหมายเรียกเพิ่มเติมกับนายวีระ สมความคิด และ บก.ลายจุด หรือ สมบัติ บุญงามอนงค์ ในความผิดประมวลกฎหมายอาญา 116 ยุงยง ปลุกปั่น เรื่องมีพฤติกรรมชัดเจน ทั้ง ภาพถ่าย และ สอบพยานในการขึ้นปราศรัย ในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
สำหรัยการดำเนินคดีกลุ่มที่สนับสนุนให้กำลังใจพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการดำเนินคดีด้วยเช่นกันโดยขณะนี้ได้มีการพิสูจน์ทราบชื่อแล้วชื่อผู้ที่ร่วมชุมนุมแล้ว 2 คน ยืนยันตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายเท่าเทียมกัน
ขณะที่นางสาวภาวิณี ชุมศรี ทนายความ ระบุว่าในวันนี้ในความรู้สึกส่วนตัวเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประวิงเวลาในการพิจารณาคำร้องของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา และปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกเพราะคดีเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษตามควรได้รับการปล่อยตัวส่วนการที่เจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยให้ทีมทนายความนำส่งนำผู้ถูกกล่าวหาถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของทนายความจึงขอปฎิเสธ