svasdssvasds

คนไทยรับ "ลูกบุญธรรม" เพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าตัว

คนไทยรับ "ลูกบุญธรรม" เพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าตัว

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

กรมสุขภาพจิต เผยคนไทยมีแนวโน้มขอรับลูกบุญธรรมเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าตัว  ขณะที่ช่วงอายุในการรับเด็กมาเลี้ยงควรอยู่ในช่วงก่อนอายุ 6 เดือน

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากสถิติของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยรายงานในปี 2559 ทั่วประเทศมีผู้ที่จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม 9,339 คน เพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าตัว เมื่อเทียบกับ 2554 ที่มีผู้ขอจดทะเบียนรับฯจำนวน 1,389 คน อันดับ 1 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,224 คน  รองลงมา คือ ชลบุรี และนครราชสีมา

คาดว่าแนวโน้มอาจมีมากขึ้นจากวัตถุประสงค์แตกต่างกัน เช่น ไม่สามารถมีบุตรได้ หรือมีบุตรยาก  ซึ่งอาจเกิดจาก ความเครียด หรือภาวะฮอร์โมน ซึ่งผลสำรวจสุขภาพครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 พบประชาชนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์อายุ 15-59 ปีที่มีคู่สมรส มีปัญหามีบุตรยากร้อยละ 9.8

และก่อนรับบุตรบุญธรรม ทั้งสามีและภรรยาจะต้องผ่านการตรวจสภาพจิตตามกระบวนการทดสอบทางจิตวิทยา เป็นไปตามกฎหมายการรับบุตรบุญธรรม  เพื่อเป็นการคุ้มครองเด็กและเลือกสรรครอบครัวที่เหมาะสมให้กับเด็ก

สำหรับคู่สมรสที่ต้องการรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยง กรมสุขภาพจิตมีคำแนะนำ 7 อย่าง เพื่อให้ทั้งเด็กและพ่อแม่บุญธรรมมีความผูกพันกัน

1. ควรรับเด็กมาเลี้ยงตั้งแต่อายุไม่เกิน 6 เดือน

2.ควรให้แพทย์ตรวจร่างกายเด็กอย่างละเอียดและไม่พบความผิดปกติ

3. ตรวจสอบโรคที่สำคัญในเด็ก

4.ตรวจสอบภูมิหลังของเด็ก

5. ถ้าเป็นเด็กโต ควรเป็นเด็กที่นับถือศาสนาเดียวกัน

6.ควรเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย

7.ควรมีการบอกความจริงแก่เด็ก ช่วงเวลาที่เหมาะสม

related