สปริงนิวส์มีโอกาสได้นั่งคุยกับเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ฉั่ว ซิ่ว ซาน ถึงการจัดการน้ำในสิงคโปร์ เธอกล่าวว่าน้ำคือชีวิต และสิงคโปร์ตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการทรัพยากรน้ำ คุณต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงจนผลักดันให้คุณต้องทำ
สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในอาเซียน 710 ตารางกิโลเมตร ถูกสหประชาชาติจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าขาดแคลนทรัพยากรน้ำมากที่สุดในโลก การขาดแคลนแหล่งน้ำจืดทำให้ประเทศต้องทำสัญญาซื้อน้ำ และการรับประกันการซื้อน้ำจากรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งต้องถูกบันทึกในเอกสารการจัดตั้งประเทศเลยทีเดียว
การมีทรัพยากรจำกัดและต้องซื้อจากเพื่อนบ้าน เป็นเหตุผลให้สิงค์โปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายจัดการทรัพยากรน้ำที่เข้มงวด และมีการผลักดันการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ำเค็มเป็นน้ำจืดและการบำบัดน้ำเสียเพื่อนำมาใช้ใหม่
สปริงนิวส์มีโอกาสได้นั่งคุยกับเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ฉั่ว ซิ่ว ซาน ถึงการจัดการน้ำในสิงคโปร์ เธอกล่าวว่าน้ำคือชีวิต และสิงคโปร์ตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการทรัพยากรน้ำ เพราะการอยู่รอดของสิงคโปร์ต้องพึ่งพาน้ำ สิงคโปร์เคยพึ่งพาการน้ำเข้าน้ำเกือบทั้งหมดจากมาเลเซีย ไม่มีแหล่งน้ำเพื่อการผลิตที่เพียงพอ ซึ่งนั่นทำให้ไม่มั่นคง ความรู้สึกไม่มั่นคงนี้เป็นแรงกระตุ้นผู้นำสิงคโปร์ที่จะหาทางออกระยะยาวสำหรับสถาณการณ์น้ำ หลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าสิงคโปร์ยังคงต้องซื้อน้ำจากมาเลเซีย สิงคโปร์ก็ได้สร้างแหล่งน้ำที่หลากหลายและยั่งยืน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งหนึ่งใดที่เดียว
นโยบายการจัดการน้ำของสิงคโปร์มี 3 กลยุทธ์
อย่างแรก สิงคโปร์เก็บน้ำทุกหยดที่จะสามารถเก็บได้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ดี สิงคโปร์สามารถจัดเก็บน้ำฝนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ จนมากกว่าประเทศส่วนใหญ่
[caption id="attachment_261254" align="alignnone" width="840"] ฉั่ว ซิ่ว ซาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย[/caption]
“มันเป็นความพยายามที่เจาะจงมาก ดิฉันคิดว่าคุณต้องมีความกังวลเรื่องความไม่มั่นคงด้านนี้มากๆ จนทำให้พยายามขนาดนี้ และนี่คือสิ่งที่เราทำในสิงคโปร์”
กลยุทธที่สองที่คือ การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลน้ำ เป็นวิธีที่ยั่งยืนที่สุดและคุ้มค่าที่สุดที่จะเพิ่มอุปทานน้ำ เรารีไซเคิลน้ำเสียให้เป็นน้ำ Ultra clean เป็นน้ำเกรดสูงมาก ที่ปลอดภัยที่จะดื่ม สิงคโปร์เรียกว่าน้ำใหม่ (New Water)
กลยุทธ์ที่สามคือ กระบวนการแยกเกลือออกจากน้ำ (desalination)
“นี่เป็นเรื่องที่ธรรมชาติสำหรับเราเพราะประเทศเราเป็นเกาะ ล้อมรอบด้วยน้ำทะเล การจัดการความต้องการน้ำก็เป็นการแก้ปัญหาอีกด้านของสมการ ฝั่งหนึ่งคือการเพิ่มอุปทาน อีกด้านหนึ่งคือการจัดการอุปสงค์ มันสำคัญมากที่เราต้องให้แน่ใจว่าเรามีน้ำพอ การอนุรักษ์น้ำก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการจัดการน้ำ เราสนับสนุนให้ทุกคนสร้างเสริมนิสัยการประหยัดน้ำ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ”
ทั้งหมดนี้คือ master plan ของสิงคโปร์ คือพิมพ์เขียวของกลยุทธ์การจัดการน้ำจนถึงปี 2060 จุดประสงค์ของแผนนี้คือการมีโรงงานผลิต new water และโรงงานแยกเกลือออกจากน้ำ ถึง 85 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการน้ำในสิงคโปร์
ตอนนี้สิงคโปร์มีสิ่งที่เรียกว่า four taps คือมี 4 แหล่งน้ำ จากกระบวนการแยกเกลือออกจากน้ำ จากการรีไซเคิลน้ำ จากบ่อกักเก็บน้ำ และน้ำนำเข้าจากมาเลเซีย
ท่านทูตย้ำว่าเพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก จึงค่อนข้างง่ายที่จะทำให้มั่นใจว่าผู้คนปฏิบัติตามระบบ คุณต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงจนผลักดันให้คุณต้องทำ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิงคโปร์