ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดเม็ดเงินสะพัดกว่า 6,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 5% โดยกิจกรรมทายผลฟุตบอลเป็นกิจกรรมที่คนดูบอลโลกในไทยสนใจเข้าร่วมสูงกว่า 90%
ผลการสำรวจพฤติกรรมการรับชมและใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2018 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าในไทยจะมีผู้ที่ดูฟุตบอลโลกสูงกว่าการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา โดยมีจำนวนผู้รับชม 10,960,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ดูทุกนัด 38.9% ส่วนอีก 61.1% ชมเฉพาะบางนัด
กลุ่มตัวอย่างที่รับชมส่วนใหญ่ 96% มีแผนที่จะใช้จ่าย ทั้งการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ไปดูการแข่งขันตามสถานที่ที่จัดกิจกรรม ซื้อเสื้อทีมฟุตบอล และส่งไปรษณียบัตรชิงโชค ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีแผนที่จะใช้จ่ายคิดเป็นสัดส่วน 4%
โดยคาดว่า กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจะมีมูลค่าเพิ่มจากช่วงปกติประมาณ 5,265 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มอาหาร ซึ่งรวมทั้งบริการจัดส่งอาหาร ร้านค้าทั่วไป อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว 3,015 ล้านบาท และเครื่องดื่ม ทั้งที่มีและไม่มีแอลกอฮอล์ อีก 2,250 ล้านบาท
ส่วนการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูฟุตบอลโลก ทั้งอุปกรณ์กีฬา เสื้อฟุตบอล ของที่ระลึก จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 910 ล้านบาท ขณะที่การชิงโชคทายผลฟุตบอลโลก ยังคงได้รับความนิยมทั้งการชิงโชคผ่านช่องทางเดิม อย่างไปรษณียบัตร สื่อสิ่งพิมพ์ และฉลากสินค้า รวมถึงช่องทางดิจิทัล ทั้งผ่าน Facebook /รวมทั้ง QR Code จะมีมูลค่ารวมประมาณ 510 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมทายผลฟุตบอลโลก มีสัดส่วนสูงถึง 91.5% ของผู้ที่มีแผนรับชม
คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 6,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% จากช่วงปกติ โดยทิศทางของการใช้จ่ายขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของเกมการแข่งขันในรอบถัดๆไป โดยกรณีทีมชาติที่มีฐานแฟนบอลในไทยสูงได้เข้ารอบลึกๆ อาจส่งผลให้การใช้จ่ายคึกคักเพิ่มมากขึ้น